วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2554

แบบฝึกหัดบทที่ 5 การจัดการสานสนเทศ

1.จงอธิบายความหมายของการจัดการสารสนเทศ

-การจัดการสารสนเทศ  หมายถึง  การทำกิจกรรมหลักต่างๆ ในการจัดหาการจัดโครงสร้าง(Organization)การควบคุม ผลิต การเผยแพร่และการใช้สารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานขององค์การทุกประเภทอย่างมีประสิทธิผล



2.การจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อบุคคลและต่อองค์การอย่างไร

-การจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อบบุคคลคือบุคคลย่อมต้องการสารสนเทศหลายด้านเพื่อการใช้ชีวิตอย่างราบรื่น มีความก้าวหน้าและมีความสุข เช่น ต้องการสารสนเทศเพื่อการดูแลรักษาสุขภาพ

การจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อองค์กรคือ ความสำคัญด้านการบริหารจัดการในยุคโลกาภิวัฒน์เป็นการบริหารภายใต้สภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีการแข่งขันทางธุรกิจสูง ผู้บริหารต้องการสารสนเทศที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อวิเคราะห์ปัญหาต่างๆของคู่แข่ง



3.พัฒนาการของการจัดการสารสนเทศแย่งออกเป็นกี่ยุค อะไรบ้าง

-พัฒนาการสารสนเทศแบ่งออกเป็น2ยุค ได้แก่ การจัดการสรสนเทศด้วยระบบมือ  การจัดการสารสนเทศโดยใช้คอมพิวเตอร์



4.จงยกตัวอย่างการจัดการสารสนเทศที่นิสิตใช้ในชีวิตประจำวันมาอย่างน้อย 3 ตัวอย่าง

-หนังสือพิมพ์  คอมพิวเตอร์ หนังสือนิตยสาร

บทที่ 6 การประยุกต์ใช้สารสนเทศในชีวิตประจำวัน

1การประยุกต์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์เป็นความหมายของข้อใด

ก.เทคโนโลยีสารสนเทศ

2เทคโนโลยีสารสนเทศใดก่อให้เกิดผลด้านการเสริมสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม

ข.ระบบการเรียนการสอนทางไกล

3การฝากถอนเงินผ่านเอทีเอ็ม(ATM)เป็นลักษณะเด่นของเทคโนโลยีสารสนเทศข้อใด

ค.เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินการในหน่วยงานต่างๆ

4ข้อใดคือการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ

ง.ถูกทุกข้อ

5เทคโนโลยีสารสนเทศหมายถึงข้อใด

ก.การประยุกต์เอาความรู้มาทำให้เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษย์

6เครื่องมือที่สำคัญในการจัดการสารสนเทศในยุคทคโนโลยีสารสนเทศคืออะไร

ง.ถูกทุกข้อ

7ข้อใดไม่ใช่บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ

ง.เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้มีการสร้างที่พักอาศัยที่มีคุณภาพ

8ข้อใดไม่ใช่อุปกรณ์ที่ช่วยงานด้านสารสนเทศ

ง.โทรทัศน์ วิทยุ

9ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ

ค.ไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์

10ข้อใดคือประโยชน์ที่ได้จากการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กับการเรียน

ง.ถูกทุกข้อ




แบบฝึกหัดบทที่ 8 การใช้สารสนเทศตามกฎหมายและจริยธรรม

1''.นาย Aทำการเขียนโปรแกรมขึ้นมาโปรแกรมหนึ่งเพื่อทดลองโจมตีการทำงานของคอมพิวเตอร์สามารถใช้งานได้โดยทำการระบุ lP-Address โปรแกรมนี้สร้างขึ้นมาเพื่อทดลองในงานวิจัยนายBที่เป็นเพื่อนสนิทของนายAได้นำโปรแกรมนี้ไปทดลองใช้แกล้งนางสาว C เมื้อนางสาว C ทราบเข้าก็เลยนำโปรแกรมนี้ไปใช้ส่งต่อให้เพื่อนๆที่รู้จักได้ทดลอง'' การกระทำอย่างนี้เป็น ผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมายใดๆหรือไม่ หากไม่ผิดเพราะเหตุใด และหากผิด ผิดในแง่ไหน จงอธิบาย

ตอบ  ผิดจริยธรรมเพราะสร้างโปรแกรมขึ้นมาแล้วใช้แกล้งคนอื่นโดยไม่เกิดประโยชน์มีแต่ความเสียหายก่อกวนระบบ


2. ''นาย J ได้สร้างโฮมเพจ เพื่อบอกว่าโลกแบนโดยมีหลักฐานอ้างอิงจากตำราต่างๆอีกทั้งรูปประกอบ เป็นการทำเพื่อความสนุก ไม่ได้ใช้ในการอ้างอิงทางวิชาการใดๆเด็กชายK เป็นนักเรียนในระดับประถมปลายที่ทำรายงานส่งครูเป็นการบ้านภาคฤดูร้อนโดยใช้ข้อมูลจากโฮมเพจของนาย J '' การกระทำอย่างนี้เป็น ผิดจริยธรรม หรืผิดกฎหมายใดๆ หรือไม่ หากไม่ผิดเพราะเหตุใด และหากผิด ผิดในแง่ไหน จงอธิบาย

ตอบ ไม่ผิดเพราะนาย J สร้างขึ้นเพื่อความสนุกและต้องการให้คนอื่นได้รู้จึงไม่ผิดกฎหมายและจริยธรรม

วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

แบบฝึกหัดบทที่ 7 ความปลอดภัยของสารสนเทศ

1.หน้าที่ของไฟร์วอลล์คือ  มีไว้เพื่อป้องกันเครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายในของตนจากอันตรายที่มาจากเครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายนอก เช่น ผู้บุกรุก หรือ Hacker Firewall จะอนุญาตให้เฉพาะข้อมูลที่มีคุณลักษณะตรงกับเงื่อนไขที่กำหนดไว้ผ่านเข้าออกระบบเครือข่ายภายในเท่านั้น อย่างไรก็ดี Firewall นั้นไม่สามารถป้องกันอันตรายที่มาจากอินเทอร์เน็ตได้ทุกรูปแบบ ไวรัสก็เป็นหนึ่งในนั้น ดังนั้นจึงไม่สามารถรับรองได้ว่าความปลอดภัยหรือความลับของข้อมูลจะมีอยู่ร้อยเปอร์เซนต์ถึงแม้ว่าจะมีการใช้ Firewall แล้วก็ตาม เครื่องบริการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล มีหลายที่หลายด้าน เช่น กรองแพ็กเกจ เฝ้าตรวจ ตรวจสอบการใช้ bandwidth หรือเก็บข้อมูลที่ local host ใช้งานบ่อย ไว้ให้ local host อื่น ๆ เรียกใช้ด้วยความเร็ว ซึ่งหลักการของ firewall

จงอธิบายคำศัพท์ต่อไปนี้ worm,virus computer,spy ware,adare มาอย่างน้อย 1 โปรแกรม



worm
เวิร์มเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่นเดียวกับโปรแกรมไวรัส แต่แพร่กระจายผ่านเครือข่ายไปยังคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เครื่องอื่น ๆ ที่ต่ออยู่บนเครือข่ายด้วยกัน ลักษณะการแพร่กระจายคล้ายตัวหนอนที่เจาะไชไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ แพร่พันธุ์ด้วยการคัดลอกตัวเองออกเป็นหลาย ๆ โปรแกรม และส่งต่อผ่านเครือข่ายออกไป
เมื่อมีผู้ส่งอีเมล์และแนบโปรแกรมติดมาด้วย ในส่วนของ Attach file ผู้ใช้สามารถคลิกดูได้ทันที การคลิกเท่ากับเป็นการเรียกโปรแกรมที่ส่งมาให้ทำงาน ถ้าสิ่งที่คลิกเป็นเวิร์ม เวิร์มก็จะแอกตีฟ และเริ่มทำงานทันที โดยจะคัดลอกตัวเองและส่งจดหมายเป็นอีเมล์ไปให้ผู้อื่นอีก
ลักษณะของเวิร์มจึงไม่ใช่โปรแกรมที่เขียนเป็น .exe อย่างเดียว เพราะถ้า .exe อย่างเดียว ผู้ใช้จะเฉลียวใจ และเนื่องจากในโปรแกรมประยุกต์ของไมโครซอฟต์เกือบทุกโปรแกรมสามารถเขียนเป็นสคริปต์ไฟล์ หรือเป็นแมโครโฟล์ เพื่อให้รันสคริปต์หรือแมโครไฟล์ได้ เช่นในเวิร์ดก็จะมีการเขียนแมคโคร ในเอ็กซ์เซลก็เขียนได้เช่นกัน แต่สำหรับเวิร์ม ILOVE YOU เขียนขึ้นเป็นไฟล์ .vbs หรือวีบีสคริปต์ไฟล์ วีบีสคริปต์นี้สามารถรันได้ทันทีเหมือน .exe ไฟล์
บนแพลตฟอร์มของวินโดว์จึงมีโอกาสที่จะเรียกไฟล์ขึ้นมารันได้หลายวิธี ข้อมูลที่ส่งมาถ้ามีแมคโครติดอยู่ ก็สามารถมีเวิร์มติดมาได้
เวิร์ม ILOVE YOU มีลักษณะพิเศษที่สร้างความเสียหายให้กับผู้ใช้ทั่วโลกมาก เพราะผู้เขียนเวิร์มนี้ตั้งใจที่จะให้แพร่หลายและทำลายไฟล์ โดยโปรแกรมจะตรวจสอบดูว่าในระบบมีสคริปต์ไฟล์อื่น ๆ อยู่อีกหรือไม่ ถ้ามีจะคัดลอกเวิร์มเข้าไปแทน เพื่อว่าต่อไปถ้ามารันสคริปต์ตัวนั้น เวิร์มก็จะกระจายได้อีก นอกจากนี้ยังดูว่ามีไฟล์ประเภทรูปภาพ

ไวรัสคอมพิวเตอร์แบ่งออกป็นกี่ชนิดอะไรบ้าง
มี 5 ประเภท ได้แก่
1 บูตไวรัส
2 ไฟล์ไวรัส
3 มาโครไวรัส
4 โทรจัน
5 หนอน

บูตไวรัส
บูตไวรัส (boot virus) คือไวรัสคอมพิวเตอร์ที่แพร่เข้าสู่เป้าหมายในระหว่างเริ่มทำการบูตเครื่อง ส่วนมาก มันจะติดต่อเข้าสู่แผ่นฟลอปปี้ดิสก์ระหว่างกำลังสั่งปิดเครื่อง เมื่อนำแผ่นที่ติดไวรัสนี้ไปใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ไวรัสก็จะเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ตอนเริ่มทำงานทันที
บูตไวรัสจะติดต่อเข้าไปอยู่ส่วนหัวสุดของฮาร์ดดิสก์ ที่มาสเตอร์บูตเรคคอร์ด (master boot record) และก็จะโหลดตัวเองเข้าไปสู่หน่วยความจำก่อนที่ระบบปฏิบัติการจะเริ่มทำงาน ทำให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


ไฟล์ไวรัส
ไฟล์ไวรัส (file virus) ใช้เรียกไวรัสที่ติดไฟล์โปรแกรม เช่นโปรแกรมที่ดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ต นามสกุล.exe โปรแกรมประเภทแชร์แวร์เป็นต้น


มาโครไวรัส
มาโครไวรัส (macro virus) คือไวรัสที่ติดไฟล์เอกสารชนิดต่างๆ ซึ่งมีความสามารถในการใส่คำสั่งมาโครสำหรับทำงานอัตโนมัติในไฟล์เอกสารด้วย ตัวอย่างเอกสารที่สามารถติดไวรัสได้ เช่น ไฟล์ไมโครซอฟท์เวิร์ด ไมโครซอฟท์เอ็กเซล เป็นต้น


หนอน
หนอน (Worm) เป็นรูปแบบหนึ่งของไวรัส มีความสามารถในการทำลายระบบในเครื่องคอมพิวเตอร์สูงที่สุดในบรรดาไวรัสทั้งหมด สามารถกระจายตัวได้รวดเร็ว ผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งสาเหตุที่เรียกว่าหนอนนั้น คงจะเป็นลักษณะของการกระจายและทำลาย ที่คล้ายกับหนอนกินผลไม้ ที่สามารถกระจายตัวได้มากมาย รวดเร็ว และเมื่อยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น ระดับการทำลายล้างยิ่งสูงขึ้น


โทรจัน
ม้าโทรจัน (Trojan) คือโปรแกรมจำพวกหนึ่งที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อแอบแฝง กระทำการบางอย่าง ในเครื่องของเรา จากผู้ที่ไม่หวังดี ชื่อเรียกของโปรแกรมจำพวกนี้ มาจากตำนานของม้าไม้แห่งเมืองทรอยนั่นเอง ซึ่งการติดนั้น ไม่เหมือนกับไวรัส และหนอน ที่จะกระจายตัวได้ด้วยตัวมันเอง แต่โทรจัน (คอมพิวเตอร์)จะถูกแนบมากับ อีการ์ด อีเมล์ หรือโปรแกรมที่มีให้ดาวน์โหลดตามอินเทอร์เน็ตในเว็บไซต์ใต้ดิน และสุดท้ายที่มันต่างกับไวรัสและเวิร์ม คือ มันจะสามารถเข้ามาในเครื่องของเรา โดยที่เราเป็นผู้รับมันมาโดยไม่รู้ตัวนั่นเอง
ให้นิสิตอธิบายแนวทางการป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์มาอย่างน้อย 5 ข้อ



  • เลือกใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสที่เหมาะสมหรือตามที่องค์กรกำหนด การเลือกนั้นเป็นเพียงการเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีและองค์กร ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเครื่องที่ใช้งานอยู่มีประสิทธิภาพไม่สูงนัก ก็อาจจะเลือกใช้งานโปรแกรมป้องกันไวรัสที่มีขนาดเล็กและทำงานได้รวดเร็ว หรือถ้าบุคลากรภายในองค์กรขาดความตระหนักในการปรับปรุงฐานข้อมูลไวรัสก็ควรที่จะเลือกโปรแกรมป้องกันไวรัสที่ผู้ดูแลระบบสามารถควบคุมเครื่องดังกล่าวให้ทำการปรับปรุงฐานข้อมูลหรือสแกนหาไวรัสจากระยะไกลได้ เป็นต้น







  • 1.สร้างแผ่นบูต emergency disk เพื่อใช้ช่วยในการกู้ระบบ การสร้างแผ่น emergency disk หรือบางครั้งอาจเรียกว่า Rescure disk นั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ถ้าเครื่องติดไวรัสที่ไม่สามารถจะกำจัดได้โดยผ่านระบบปฏิบัติการวินโดวส์ หรือผลกระทบของไวรัสที่ทำให้เครื่องไม่สามารถบูตได้ตามปกติ เราก็สามารถใช้แผ่น emergency disk มาช่วยในการกู้ข้อมูลและกำจัดไวรัสออกจนทำให้บูตเครื่องได้ตามปกติ 2.ปรับปรุงฐานข้อมูลไวรัสทุกวันหรืออย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง ขั้นตอนนี้เปรียบเสมือนหัวใจของการใช้งานโปรแกรมป้องกันไวรัส เนื่องจากไวรัสคอมพิวเตอร์ถูกพัฒนาออกมาใหม่ทุกวัน ดังนั้นจึงควรที่จะสอนโปรแกรมป้องกันไวรัสให้รู้จักไวรัสชนิดใหม่ๆ ด้วย โดยการปรับปรุงฐานข้อมูลไวรัสที่ใช้งานนั่นเอง
    3.เปิดใช้งาน auto - protect โดยส่วนใหญ่โปรแกรมป้องกันไวรัสที่ติดตั้งจะทำการสร้างโพรเซสที่จะตรวจหาไวรัสตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสสามารถถูกเอ็กซิคิวต์ในเครื่องได้
    4.ก่อนเปิดไฟล์จากแผ่นที่นำมาใช้จากที่อื่นให้สแกนหาไวรัสก่อน แผ่นดิสก์ที่นำไปใช้ที่อื่นแล้วนำกลับมาเปิดที่เครื่อง จะมั่นใจได้อย่างไรว่าแผ่นนั้นไม่มีไวรัสอยู่ ดังนั้นควรจะตรวจหาไวรัสในแผ่นก่อนที่จะเปิดอ่านข้อมูลที่ถูกบรรจุในแผ่นดิสก์ดังกล่าว
    5.ทำการตรวจหาไวรัสทุกสัปดาห์ ในแต่ละสัปดาห์แน่นอนว่ามีไฟล์ที่ผ่านเข้าออกเครื่องมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อี-เมล์ที่ได้รับ ไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาจากอินเทอร์เน็ต ตลอดจนไฟล์ชั่วคราวของโปรแกรมเว็บบราวเซอร์ที่เก็บในแต่ละครั้งที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ แล้วจะแน่ใจได้อย่างไรว่าไฟล์เหล่านั้นไม่มีไวรัสแฝงตัวมา ดังนั้นจึงควรที่จะทำการตรวจหาไวรัส โดยการสแกนหาทั้งระบบ อาจจะเป็นทุกเย็นของวันศุกร์ก่อนกลับบ้านก็เป็นได้
    2. มาตรการด้านจริยธรรมคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมการใช้อินเทอเน็ตที่เหมาะสมกับสังคมปัจจุบันได้แก่



    มาตรา ๕ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สําหรับตน ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
    มาตรา ๖ ผู้ใดล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทําขึ้นเป็นการเฉพาะ ถ้านํามาตรการดังกล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
    มาตรา ๗ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สําหรับตน ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
    มาตรา ๘ ผู้ใดกระทําด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อดักรับไว้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น มิได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อให้บุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์ได้ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน สามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
    มาตรา ๙ ผู้ใดทําให้เสียหาย ทําลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกิน หนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
    มาตรา ๑๐ ผู้ใดกระทําด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทํางานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น ถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทํางานตามปกติได้ต้องระวางโทษจําคุก ไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
    มาตรา ๑๑ ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นโดยปกปิด หรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของ บุคคลอื่นโดยปกติสุข ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
    มาตรา ๑๒ ถ้าการกระทําความผิดตามมาตรา ๙ หรือมาตรา ๑๐
    (๑) ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน ไม่ว่าความเสียหายนั้นจะเกิดขึ้นในทันที หรือในภายหลัง และไม่ว่าจะเกิดขึ้นพร้อมกันหรือไม่ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสิบปีและปรับไม่เกินสองแสนบาท
    (๒) เป็นการกระทําโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบ คอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคง ในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือการบริการสาธารณะ หรือเป็นการกระทําต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสามแสนบาท
    ถ้าการกระทําความผิดตาม (๒) เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี



    มาตรา ๑๓ ผู้ใดจําหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคําสั่งที่จัดทําขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนําไปใช้เป็นเครื่องมือ ในการกระทําความผิดตามมาตรา ๕ มาตรา ๖ มาตรา ๗ มาตรา ๘ มาตรา ๙ มาตรา ๑๐ หรือมาตรา ๑๑ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
    มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทําความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
    (๑) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
    (๒) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด ความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
    (๓) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง แห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
    (๔) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
    (๕) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (๑) (๒) (๓) หรือ(๔)
    มาตรา ๑๕ ผู้ให้บริการผู้ใดจงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มี การกระทําความผิดตามมาตรา ๑๔ ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตน ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทําความผิดตาม มาตรา ๑๔
    มาตรา ๑๖ ผู้ใดนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูล คอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้โดยประการที่น่าจะทําให้ผู้อื่นนั้น เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
    ถ้าการกระทําตามวรรคหนึ่ง เป็นการนําเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยสุจริต ผู้กระทําไม่มีความผิด
    ความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้
    ถ้าผู้เสียหายในความผิดตามวรรคหนึ่งตายเสียก่อนร้องทุกข์ ให้บิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตรของผู้เสียหายร้องทุกข์ได้ และให้ถือว่าเป็นผู้เสียหาย
    มาตรา ๑๗ ผู้ใดกระทําความผิดตามพระราชบัญญัตินี้นอกราชอาณาจักรและ
    (๑) ผู้กระทําความผิดนั้นเป็นคนไทย และรัฐบาลแห่งประเทศที่ความผิดได้เกิดขึ้น หรือผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ หรือ
    (๒) ผู้กระทําความผิดนั้นเป็นคนต่างด้าว และรัฐบาลไทย หรือคนไทยเป็นผู้เสียหาย และผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ
    จะต้องรับโทษภายในราชอาณาจักร

    สรุปบทที่ 8 การใช้สารสนเทศตามกฎหมายและจริยธรรม

       เป็นแบบแผนในการประพฤติปฎิบัติที่เกี่ยวข้องกับการจัดกรข้อมูลสารสนเทศการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของมนุษย์
        ผลกระทบของเทคโนโลยี
    การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศจนสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวางลายเป็นยุคแห่งเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือยุคข้อมูลข่าวสาร ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อมนุษย์ชาติอย่างมหาศาลนั้นหมายถึงก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
        ผลกระทบทางบวก
    1.เพิ่มความสะดวกสบายในการสื่อสาร
    2.เป้นสังคมแห่งการสื่อสารเกิดสังคมโลกขึ้น
    3.มีระบบผู้เชี่ยวชาญต่างๆในฐานข้อมูลความรู้
    4.เทคโนโลยีสารสนเทศสร้างโอกาสให้คนพิการ
       ผลกระทบทางลบ
    1.ก่อให้เกิดความเครียดขึ้นในสังคม
    2.ก่อให้เกิดการรับวัฒนธรรม
    3.ก่อให้เกิดผลด้านศิลปกรรม
        ปัญหาสังคมที่เกิดจากเทคโนโลยีสารสนเทศ
    1.มุมมองว่าเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือที่มีไว้เพื่อให้มนุษย์บรรลุวัตถุประสงค์
    2.มุมมองว่าเทคโนโลยีสารสนเทศและสังคมต่างก็มีกระทบซึ่งกันและกัน
    Freeware สามารถโหลดได้  Freeware คือใช้ฟรี
    Sharewae สามารถโหลดได้ แต่อาจมีปัญหากับลิขสิทธิ์

    เฮนริไดรืมีกี่โปรแกรม

    USB Defender เป็นโปรแกรมป้องกันไวรัส และดักจับพวกไวรัส Auto Run ต่างๆ ที่แอบแฝงมากับแฟลชไดร์ฟ หรือ USB ที่เสียบเข้ามาที่คอมพิวเตอร์ของเรา อัพเดทเวอร์ชันล่าสุด USB Defender 1.2 ทั้งนี้ตัวโปรแกรมจะพยามค้นหาไวรัสในแฟลชไดร์ฟ และทำการลบไวรัสที่ตรวจจับได้ทันที หรือจะปลดการล็อคด้วยปุ่ม Unprotect ก็สามารถใช้งานแฟลชไดร์ฟได้เหมือนเดิม ตัวโปรแกรมมีขนาดเล็กเพื่อให้คุณสามารถนำติดตัวไปกับคุณทุกที่ที่คุณต้องการ Get USB Defender

    USB Drive Antivirus พัฒนาขึ้นโดยบริษัท Easy Soft อัพเดทเวอร์ชันใหม่ล่าสุด USB Drive Antivirus 3.0 โปรแกรมนอกจากจะสามารถสแกนไวรัสและกำจัดไวรัส โทรจัน และมัลแวร์ต่างๆ ในอุปกรณ์ประเภท USB Drive อย่างแฟลชไดรว์ แมโมรี่การ์ด ได้แล้ว ยังสามารถซ่อมแซมระบบที่โดนไวรัสเล่นงานหรือแก้ไข้ความเสียหายหลังกำจัดไวรัสได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น Regedit หรือ Task Manager ที่เปิดใช้งานไม่ได้, คำสั่ง Folder Option หายไป, ยกเลิกไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่เป็นไฟล์ซ่อน (Hidden Files) ไม่ได้ เป็นต้น

    การทำงานของไวรัสแต่ละชนิด

    สำหรับ การทำงานของไวรัสที่พบมากในปัจจุบันส่วนใหญ่มีการติดมาจากการใช้ Handy Drive ซึ่งปัจจุบันเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย จึงขออธิบายหลักการทำงานของไวรัสที่พบบ่อยในช่วงนี้ให้ได้ทราบกันครับ
    Anti AntiVirus
    ไวรัสตัวนี้จะทำการแก้ไข Windows Title ให้เป็น Anti AntiVirus ตลอดเวลา สามารถติดเชื้อ Handy Drive โดยใช้ไฟล์ Auto Run ไวรัสจะแก้ไขค่าใน Registries ที่เกี่ยวกับไฟล์นามสกุล exe ให้ไวรัสเป็นผู้จัดการแทนระบบปฏิบัติการ ด้วยเหตุนี้อาจทำให้เปิดไฟล์ exe ไม่ได้

    Hacked by 8BITS ไวรัสถูกเขียนโดยใช้ Visual Basic Script โดยจะสร้างไฟล์ Auto Run ลงบนทุกๆ Drive พร้อมคัดลอกไฟล์ไวรัส kernel32.dll.vbs ไปด้วย ไวรัสจะแก้ไข Title Bar ของ IE เป็น Hacked by 8BITS โดยไวริสชนิดนี้สามารถเรียกใช้โปรแกรมที่ใช้ในการควบคุมการเปิด-ปิดเครื่องของระบบปฏิบัติการ ดังนั้นเครื่องที่ติดไวรัสจะโอกาสปิดลง โดยไม่มีการแจ้งเตือน

    Data.exe ไวรัส จะทำการเขียนแก้ไขค่าใน Registries ที่ระบบปฏิบัติการใช้ Run MSN Messenger ในตอนเริ่ม Bootเครื่องด้วยวิธีนี้ทำให้ไวรัสถูกเรียกขึ้นมาทำงาน ทุกครั้งที่ เปิดเครื่อง ในไฟล์ไวรัสปรากฏโค้ดที่พยายามติดต่อกับ www.Atom-Soft.com ผ่านทาง http และ ftp เชื่อว่ามีการเขียนขึ้นมา 3 รุ่น ไวรัสจะแพร่กระจายตัวเองไปทุกๆ Drive และ Folder โดยอาศัยช่วงเวลาที่ผู้ใช้ทำงานใน Folder นั้น ทำการเลียนแบบชื่อ Folder แล้วคัดลอกตัวเองเป็นไฟล์นามสกุล exe มีขนาด 213 KB,221KB และ 224 KB ยกเว้น Program Files และ Desktop ไวรัสจะไม่ติดเชื้อ ไวรัสอาจ Overwrite ไฟล์ exe บนเครื่องได้ เมื่อชื่อ Folder ที่เก็บไฟล์ เป็นชื่อเดียวกับไฟล์ ซึ่งจะทำให้ไฟล์สูญหายไป นอกจากนี้ไวรัสตัวนี้มีฟังก์ชั่นในการทำลายข้อมูลบน Hard Disk ด้วย

    .MS32DLL.dll.vbs
    ไวรัสตัวนี้เชื่อว่ามาจากการดัดแปลงไฟล์ไวรัสต้นแบบที่ชื่อ VBS.Godzilla ไวรัสตัวนี้กระจายตัวผ่านทาง Handy Drive แล้วจะสร้างไฟล์ Auto Run ลงในทุกๆ Drive บนเครื่อง โดยจะใช้ชื่อไฟล์เป็น .MS32DLL.dll.vbs เมื่อผู้ใช้ Double Click ไวรัสจะถูกเรียกขึ้นมาทำงาน ไวรัสพยายามซ่อนตัวเองโดยการปรับแต่ง Registries และการเปลี่ยนสกุล ไฟล์ไวรัสเป็น Boot.ini เพื่อหลบซ่อนในระบบด้วย
    Toy.exe
    ไวรัสติดเชื้อ Handy Drive โดยใช้เทคนิค Auto Run ตัวแก้นี้จะทำการแก้ไขไวรัสแบบสมบูรณ์ ไวรัสตัวนี้ไม่ได้ทำลายข้อมูล เพียงแต่ก่อกวน โดยสังเกตที่หน้าจอในตอนที่ Log on เข้าใช้งาน จะมีข้อความเกี่ยวกับการสร้างโลกของพระเจ้า หรือรู้จักไวรัสตัวนี้กันดีในชื่อไวรัสภาษาจีน
    music.exe
    ไวรัสตัวนี้รู้จักกันดีในชื่อ music.exe ติดเชื้อผ่านทาง Handy Drive โดยเทคนิค Auto Run ไวรัสถูกเขียนโดยใช้ภาษา Visual Basic จะทำการลบไฟล์ นามสกุล *.mp3 และ *.dat ทุกไฟล์ที่พบบนเครื่อง ไวรัสพยายามใช้คำสั่งที่มีวิธีการเหมือนผู้ใช้ทำปกติ แทนที่การเขียนโค้ดโดยตรงเพื่อหลบการวิเคราะห์ไฟล์ของโปรแกรม Anti Virus ไวรัสทำการคัดลอกตัวเองโดยใช้ชื่อ Folder ที่พบ มีนามสกุลเป็น *.exe ตลอดเวลาทำให้เครื่องประมวลผลงานอื่นๆช้าลง แต่ไม่พบฟังก์ชั่นที่เปิดทางให้ Hacker ควบคุม คาดว่าไวรัสตัวนี้ถูกเขียนมาเพื่อทำลายข้อมูล สร้างความเสียหายโดยเฉพาะ

    iexp1ore.exe ไวรัสตัวนี้ติดต่อผ่านทาง Handy Drive โดยใช้วิธี Auto Run เมื่อผู้ใช้ Double Click เข้าใช้งานในเครื่องที่ฟังก์ชั่นเล่นอัตโนมัติทำงานอยู่ ไวรัสจะติดเข้าสู่เครื่องทันที ไวรัสจะคัดลอกตัวเองไปใน Folder โปรแกรม Internet Explorer โดยพยายามทำตัวเองเป็นเสมือนโปรแกรม Internet Explorer ทำการแก้ไขทางลัดทุกทางที่จะเรียกใช้โปรแกรมให้ชี้ไปที่ไวรัสแทน Process ของไวรัสมีชื่อว่า iexp1ore.exe โดยไวรัสจะไม่สร้างความผิดปกติใดๆ บนเครื่องที่ติดเชื้อ ทำให้ผู้ใช้ที่ไม่สังเกต ไม่สามารถตรวจพบได้

    sxs.exe เครื่องที่ติดไวรัสชนิดนี้ จะไม่สามารถ Double Click เปิดเข้า Drive ต่างๆ ไม่ได้ แต่สามารถเข้าใช้งาน Drive C ได้
    คลิป VDO
    ความรุนแรงของมันไม่มากแต่ก็เป็นโปรแกรมที่มีความสามารถในการแพร่กระจายตัวเองจากเครื่องหนึ่งไปอีกเครื่องหนึ่งโดยจะสร้างไฟล์ คลิป VDO.exe ลงบนทุกๆ Drive โดยทำ Icon ของมันเป็นแบบ Folder สร้างความรำคาญแก่ผู้ใช้

    AdobeR ไวรัส AdobeR.exe หรือ Worm Rjump ตัวนี้สามารถผ่านทาง Handy Drive โดยใช้เทคนิค Auto Run ด้วยเหตุนี้ไวรัสจะติดทันทีที่ผู้ใช้ Click เปิด เพื่อเข้าใช้งานจากอุปกรณ์ที่ติดเชื้อ นอกจากนี้ไวรัสยังทำตัวของมันให้เป็น Protected OS File ทำให้ผู้ใช้มองไม่เห็นตัวมัน
    Flashy.exe
    ไวรัสชนิดนี้จะทำให้ไม่สามารถเรียกใช้ Task Manager, Registry Editor และ Folder Option ได้ ไม่ว่าจะเรียกด้วยวิธีใด หากพยายามแก้ไขด้วยวิธีการทำ System Restore ถ้าเครื่องของเราได้ทำการตั้งรหัสเอาไว้ ไวรัสจะทำการแก้รหัสของเราใหม่ ทำให้ไม่สามารถ Login เข้าเครื่องของเราได้อีกเลย
    Error นี้จะแสดงขึ้นมาทันทีเมื่อ ตรวจพบการใช้งาน Controller ของ Removeble Media ต่างๆ อยู่เฉยๆอาจจะปกติไม่มีอะไร แต่เมื่อเสียบ Card Reader เข้าไป ก็จะ Error ทันที เมื่อเสียบ Flash Drive เข้าไป หรือเสียบ Memory Card เข้าไปใน Card Reader แล้ว หากว่า ใน Memory Card นั้นมี Folder อยู่ Folder เหล่านั้นจะถูกเปลี่ยนให้ไปอยู่ใน สถานะ Hidden ทำให้เราไม่สามารถมองเห็น Folder ของเราในนั้นได้ หากว่าใน Memory Card หรือ Flash Drive ของเรามี Aplication อยู่ (ที่มีนามสกุลว่า .exe) Flashy.exe จะทำการปลอมชื่อตัวเองไปเป็นชื่อเดียวกัน Aplication นั้นๆ ทำให้เราเข้าใจว่า Aplication ของเรากำลังเรียกใช้งานอยู่ตามปกติ จะมีการเขียนค่าลงใน Memory Card ที่เราใส่ลงไป และทำให้ตัวเองมีหน้าตาเหมือน Folder และเมื่อเราเอาไปใช้ที่ใหม่ เครื่องอื่นจะมองเห็นเป็น Folder ทำให้ User ไม่ทันระวังตัว พอ Double Click ไปก็เท่ากับเป็นการ Run ไวรัสเข้าเครื่องในทันที แต่ไวรัสตัวนี้ไม่สามารถแพร่กระจายในเครือข่ายได้

    ไวรัสมีกี่ชนิด

     ไวรัสคอมพิวเตอร์ในโลกนี้มีนับล้านๆ ตัวแต่คุณรู้ใหมครับว่าดดยพื้นฐานของมันแล้วมาจากแหล่งกำเหนิดที่เหมือนๆ กันซึ่งเราสามารถแบ่งประเภทของไวรัสคอมพิวเตอร์ออกมา ได้ดังนี้


    1. บูตเซกเตอร์ไวรัส (Boot Sector Viruses) หรือ Boot Infector Viruses คือไวรัส
    ที่เก็บตัวเองอยู่ในบูตเซกเตอร์ของดิสก์ การใช้งานของบูตเซกเตอร์ คือเมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์เริ่มทำงาน
    ขึ้นมาครั้งแรก เครื่องจะเข้าไปอ่านบูตเซกเตอร์ โดยในบูตเซกเตอร์จะมีโปรแกรมเล็ก ๆ ไว้ใช้ในการเรียก
    ระบบปฏิบัติการขึ้นมาทำงาน

    การทำงานของบูตเซกเตอร์ไวรัสคือ จะเข้าไปแทนที่โปรแกรมที่อยู่ในบูตเซกเตอร์ โดยทั่วไปแล้วถ้าติดอยู่ในฮาร์ดดิสก์ จะเข้าไปอยู่บริเวณที่เรียกว่า Master Boot Sector หรือ Partition Table ของฮาร์ดดิสก์นั้น ถ้าบูตเซกเตอร์ของดิสก์ใดมีไวรัสประเภทนี้ติดอยู่ ทุก ๆ ครั้งที่บูตเครื่องขึ้นมา เมื่อมีการเรียนระบบปฏิบัติการ จากดิสก์นี้ โปรแกรมไวรัสจะทำงานก่อนและเข้าไปฝังตัวอยู่ในหน่วยค วามจำเพื่อเตรียมพร้อมที่จะทำงานตามที่ได้ถูกโปรแกรม มา ก่อนที่จะไปเรียนให้ระบบปฏิบัติการทำงานต่อไป ทำให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    2. โปรแกรมไวรัส (Program Viruses) หรือ File Intector Viruses เป็นไวรัสอีกประเภทหนึ่ง
    ที่จะติดอยู่กับโปรแกรม ซึ่งปกติจะเป็นไฟล์ที่มีนามสกุลเป็น COM หรือ EXE และบางไวรัสสามารถเข้าไปอยู่ใน
    โปรแกรมที่มีนามสกุลเป็น SYS ได้ด้วยการทำงานของไวรัสประเภทนี้ คือ เมื่อมีการเรียกโปรแกรมที่ติดไวรัส ส่วนของไวรัสจะทำงานก่อนและจะถือโอกาสนี้ฝังตัวเข้าไ ปอยู่ในหน่วยความจำทันทีแล้วจึงค่อยให้โปรแกรมนั้นทำ งานตามปกติ เมื่อฝังตัวอยู่ในหน่วยความจำแล้วหลังจากนี้หากมีการ เรียกโปรแกรมอื่น ๆ ขึ้นมาทำงานต่อ ตัวไวรัสจะสำเนาตัวเองเข้าไปในโปรแกรมเหล่านี้ทันที เป็นการแพร่ระบาดต่อไป

    นอกจากนี้ไวรัสนี้ยังมีวิธีการแพร่ระบาดอีกคือ เมื่อมีการเรียกโปรแกรมที่มีไวรัสติดอยู่ ตัวไวรัสจะเข้าไปหา โปรแกรมอื่น ๆ ที่อยู่ติดเพื่อทำสำเนาตัวเองลงไปทันที แล้วจึงค่อยให้โปรแกรมที่ถูกเรียกนั้นทำงานตามปกติต่ อไป

    3. ม้าโทรจัน (Trojan Horse) เป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมาให้ทำตัวเหมือนว่าเป็นโ ปรแกรมธรรมดา ทั่ว ๆ ไป เพื่อหลอกล่อผู้ใช้ให้ทำการเรียนขึ้นมาทำงาน แต่เมื่อถูกเรียกขึ้นมา ก็จะเริ่มทำลายตามที่โปรแกรมมาทันที ม้าโทรจันบางตัวถูกเขียนขึ้นมาใหม่ทั้งชุด โดยคนเขียนจะทำการตั้งชื่อโปรแกรมพร้อมชื่อรุ่นและคำ อธิบาย การใช้งาน ที่ดูสมจริง เพื่อหลอกให้คนที่จะเรียกใช้ตายใจ

    จุดประสงค์ของคนเขียนม้าโทรจันคือเข้าไปทำอันตรายต่อ ข้อมูลที่มีอยู่ในเครื่อง หรืออาจมีจุดประสงค์เพื่อที่จะล้วง เอาความลับของระบบคอมพิวเตอร์ ม้าโทรจันถือว่าไม่ใช่ไวรัส เพราะเป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมาโดด ๆ และจะไม่มีการ

    เข้าไปติดในโปรแกรมอื่นเพื่อสำเนาตัวเอง แต่จะใช้ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้ใช้ เป็นตัวแพร่ระบาดซอฟต์แวร์ที่มี ม้าโทรจันอยู่ในนั้นและนับว่าเป็นหนึ่งในประเภทของโป รแกรมที่มีความอันตรายสูง เพราะยากที่จะตรวจสอบและ สร้างขึ้นมาได้ง่าย ซึ่งอาจใช้แค่แบต์ไฟล์ก็สามารถโปรแกรมม้าโทรจันได้

    4. โพลีมอร์ฟิกไวรัส (Polymorphic Viruses) เป็นชื่อที่ใช้เรียกไวรัสที่มีความสามารถในการแปรเปล ี่ยนตัวเอง ได้เมื่อมีการสร้างสำเนาตัวเองเกิดขึ้น ซึ่งอาจได้ถึงหลายร้อยรูปแบบ ผลก็คือ ทำให้ไวรัสเหล่านี้ยากต่อการถูกตรวจจัดโดยโปรแกรมตรว จหาไวรัสที่ใช้วิธีการสแกนอย่างเดียว ไวรัสใหม่ ๆ ในปัจจุบันที่มีความสามารถนี้เริ่มมีจำนวนเพิ่มมากขึ ้นเรื่อย ๆ

    5. สทิลต์ไวรัส (Stealth Viruses) เป็นชื่อเรียกไวรัสที่มีความสามารถในการพรางตัวต่อกา รตรวจจับได้ เช่น ไฟล์อินเฟกเตอร์ ไวรัสประเภทที่ไปติดโปรแกรม ใดแล้วจะทำให้ขนาดของ โปรแกรมนั้นใหญ่ขึ้น ถ้าโปรแกรมไวรัสนั้นเป็นแบบสทิสต์ไวรัส จะไม่สามารถตรวจดูขนาดที่แท้จริงของโปรแกรมที่เพิ่มขึ้นได้

    เนื่องจากตัวไวรัสจะเข้าไปควบคุมดอส เมื่อมีการใช้คำสั่ง DIR หรือโปรแกรมใดก็ตามเพื่อตรวจดูขนาดของโปรแกรม ดอสก็จะแสดงขนาดเหมือนเดิม ทุกอย่างราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    6. Macro viruses จะติดต่อกับไฟล์ซึ่งใช้เป็นต้นแบบ (template) ในการสร้างเอกสาร (documents หรือ spreadsheet) หลังจากที่ต้นแบบในการใช้สร้างเอกสาร ติดไวรัสแล้ว ทุก ๆ เอกสารที่เปิดขึ้นใช้ด้วยต้นแบบอันนั้นจะเกิดความเสี ยหายขึ้น

    program แอนติไวรัส

    Panda Cloud Antivirus 1.0 เป็นโปรแกรมสแกนไวรัส ที่พัฒนามาจากค่าย Panda มีการสแกนไวรัสจากเซิร์ฟเวอร์ของ PandaLabs โดยที่ Panda Cloud Antivirus 1.0 เป็นโปรแกรมสแกนไวรัสรูปแบบใหม่ โดยเปลี่ยนแนวคิดของโปรแกรมแอนตี้ไวรัสแบบเดิมๆ มาเป็นการทำงานผ่าน cloud computing แทน Cloud คอมพิวเตอร์ที่อยู่ตามที่ต่างๆ ทั่วโลก และเชื่อมต่อกันด้วยอินเตอร์เน็ต และทำงานร่วมกัน พูดง่ายๆ cloud คือซุปเปอร์คอมพิวเตอร์แบบหนึ่งนั่นเอง แนวคิดของ Panda Cloud Antivirus คือการออกแบบให้โปรแกรมมีขนาดเล็ก เบา ใช้พื้นที่และทรัพยากรเครื่องคอมพิวเตอร์น้อย และได้ย้ายการทำงานหลักๆ ออกไปทำงานบนเซิฟเวอร์ cloud แทน ไม่ว่าจะเป็น realtime protection, fully scanning, และข้อมูลของไวรัสที่ออกมาใหม่ โปรแกรมสแกนไวรัส Panda Cloud Antivirus จึงเป็นโปรแกรมสแกนไวรัสน้องใหม่ไฟแรงที่น่าจับตามองมากทีเดียว

    NOD32 Antivirus System เป็นโปรแกรมป้องกันไวรัส ที่สามารถอัพเดทข้อมูลไวรัสตัวใหม่ได้แบบอัตโนมัติ และยังใช้ระยะเวลาในการอัพเดทน้อยมาก ด้วยความสามารถของ NOD32 สำหรับ Windows ที่จะปกป้องคุ้มครองคอมพิวเตอร์ของเรา โดยเราจะไม่ต้องกังวลกับไวรัสที่น่ารำคาญอย่าง Netsky, Mydoom หรือ Lovebug อีกต่อไป
    NOD32 เป็นโปรแกรมใช้งานได้ง่ายและให้ความปลอดภัยระดับองค์กร หลังจากที่ติดตั้งเสร็จสิ้น AMON ผู้ดูแลตรวจสอบระบบตลอดเวลา จะทำงานอยู่ด้านหลัง ช่วยให้คอมพิวเตอร์ของคุณปลอดภัย IMON ผู้ดูและตรวจสอบอีเมล์ จะสแกนไวรัส ในทุกๆอีเมล์ที่คุณได้รับ และตรวจหาไวรัสและทำการกำจัดก่อนที่ไวรัสจะมีโอกาสเข้ามาและทำร้ายเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา และเมื่อมีการอัปเดทใหม่ๆเข้ามา, NOD32 จะทำการอัปเดทโดยอัตโนมัติ ให้คุณมั่นใจว่าคุณจะมีฐานข้อมูลไวรัสล่าสุด…

    วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554

    ข้อมูลรัฐบาลชุดใหม่นโยบาล

    ด้านการต่างประเทศ

    1. ดำเนินนโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระ (Independent Foreign Policy) เน้นผลประโยชน์แห่งชาติเป็นหลัก ส่งเสริมความเท่าเทียมกันในการดำเนินความสัมพันธ์กับประเทศที่พัฒนาแล้วกับประเทศกำลังพัฒนา และส่งเสริมหลักการ Multi-Polarity
    2. ให้ความสำคัญสูงสุดกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านใกล้ชิด (Neighbourhood Diplomacy) คือ ประเทศสมาชิกของสมาคมความร่วมมือแห่งภูมิภาคเอเชียใต้ (South Asia Association for Regional Cooperation : SAARC) 7 ประเทศ ได้แก่ บังคลาเทศ ภูฏาน เนปาล มัลดีฟส์ ปากีสถานและศรีลังกา
    3. นอกจากประเทศเพื่อนบ้านกลุ่ม SAARC แล้ว ยังให้ความสำคัญกับ อัฟกานิสถาน อิรัก อิหร่าน และอาเซียน ซึ่งถือเป็นประเทศเพื่อนบ้านใกล้ชิดเช่นกัน โดยให้ความสำคัญต่อการดำเนินนโยบายมองตะวันออก (Look East) อย่างต่อเนื่อง
    4. ส่งเสริมความสัมพันธ์กับจีน โดยเฉพาะความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทเรื่องพรมแดน
    5. กระชับความสัมพันธ์ที่ดีอยู่แล้วกับรัสเซียให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะด้านการทหารและเทคโนโลยีด้านอวกาศและนิวเคลียร์
    6. ขยายความร่วมมือกับสหรัฐ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจและการติดต่อสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ
    7.เพิ่มความสำคัญต่อความสัมพันธ์กับตะวันออกกลาง โดยคำนึงถึงรากฐานความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ในขณะเดียวกันก็ยังคงมีความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับอิสราเอลโดยเฉพาะด้านการทหาร
    8. แสดงบทบาทเป็นประเทศผู้ให้ต่อภูมิภาคแอฟริกา โดยจัดตั้งกลุ่ม Team-9 โดยอินเดียเป็นศูนย์กลางและให้ความช่วยเหลือภายใต้กรอบ UNDP แก่ประเทศแอฟริกาตะวันตกอีก 8 ประเทศ คือ Bukina Faso, Cote d’Ivoire, Ivory Coast, Equatorial Ginea, Ghana, Ghinea Bissau, Mali และ Senegal ในด้านความมั่นคงทางอาหาร การขจัดความยากจน การพัฒนาการเกษตร โดยคำนึงถึงประชาชนเชื้อสายอินเดียที่อาศัยในภูมิภาคนี้เป็นจำนวนมาก

    การเปิดปิดภาคเรียนแบบใหม่

     การปิดเทอมของมหาวิทยาลัยในประเทศไทยนั้น เดิมทีจะอยู่ในช่วง เดือนเมษายน - พฤษภาคม ซึ่งถือเป็นช่วงปิดเทอมใหญ่ และปิดอีกครั้งในเดือนตุลาคม ซึ่งถือเป็นการปิดเทอมย่อย หรือปิดเทอมเล็ก
    แต่จากการประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ครั้งล่าสุดที่เพิ่งผ่านพ้นไป ทปอ. ได้มีมติที่จะเลื่อนการเปิดภาคเรียนของมหาวิทยาลัยทั้งหมดทั่วประเทศ ให้เวลาเปิดและปิดภาคเรียนของประเทศไทยตรงกับประเทศสมาชิกอาเซียน ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนปี 2558

    ในทางปฏิบัตินั้น จะเลื่อนไปเปิดภาคเรียนแรกในช่วงเดือนกันยายน-ธันวาคม แทนที่จะเป็นเดือนมิถุนายน-ตุลาคม เหมือนที่แล้วๆ มา ส่วนภาคเรียนที่สองก็เป็นช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม แทนของเดิมที่อยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม โดยทาง ทปอ. คาดการณ์ไว้ว่าจะเริ่มต้นได้ในปี 2555

    และแน่นอนว่าการเลื่อนการเปิด-ปิดเทอมของมหาวิทยาลัยในครั้งนี้ย่อมส่งผลกระทบไปยังหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับระบบอุดมศึกษาไทย หรือมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ

    วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2554

    การจัดการสารสนเทศ

            การจัดการสารสนเทศ คือ การผลิต จัดเก็บ และก็ประมวณผลค้นหาและเผยแพร่
    ความสำคัญของสารสนเทศ ก็จะประกอบไปด้วย  ความสำคัญต่อบุคคล   ความสำคัญต่อองค์กร
           พัฒนาการสารสนเทศการจัดการสารสนเทศก็เป็นสิ่งที่มนุษย์ได้กระทำมาเป็นระยะเวลายาวนานนับตั้งแต่ขีดเขียน บันทึกข้อมูล
          การจัดการสารสนเทศโดยทั่วไปแบ่งเป็น 2 ยุค คือ  การจัดการสารสนเทศด้วยระบบมือ  และการจัดการสารสนเทศโดยใช้คอมพิวเตอร์
           ปัจจัยสำคัญของการจัดการสารสนเทศมี 4 ด้าน คือ เทคโนโลยี คน กระบวนการ และการบริหารการจัดการ  คนสำคัญที่สุดคอมพิวเตอร์เป็นเพียงเศษเหล็กที่สำคัญน้อยที่สุดคือเทคโนโลยี

    วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

    แบบฝึกหัดบทที่ 4

    1. ให้นิสิตยกตัวอย่างอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศตามหัวข้อต่อ​ไปนี้
    อย่างน้อยหัวข้อละ 3 ชนิด
    1) การบันทึกและจัดเก็บข้อมูล
    ...-เทปแม่เหล็ก
    -จานแม่เหล็ก
    -บัตรเอทีเอ็ม

    2) การแสดงผล
    -เครื่องพิมพ์
    -จอภาพ
    -พลอตเตอร์

    3) การประมวลผล
    -ฮาร์ดแวร์
    -ซอฟต์แวร์
    -ซีพียู

    4) การสื่อสารและเครือข่าย
    -โทรทัศน์
    -วิทยุกะจายเสียง

    -อินเตอร์เน็ต

    2. ให้นิสิตนำตัวเลขในช่องขวา มาเติมหน้าข้อความในช่องซ้ายที่​มีความสัมพันธ์กัน
    ...2...ซอฟแวร์ประยุกต์
    ...3...Information Technology
    ...1...คอมพิวเตอร์ในยุคประมวลผ​ลข้อมูล
    ...4....เทคโนโลยีสารสนเทศประกอ​บด้วย
    ...5....ช่วยเพิ่มผลผลิต เพิ่มต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

    1. ส่วนใหญ่ใช้ทำหน้าที่คำนวณ ประมวลผลข้อมูล
    2. e-Revenue
    3. เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่นำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินก​าร
    เกี่ยวกับสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความถูกต้อง
    ...แม่นยำ และความรวดเร็วต่อการนำไปใช้
    4. มีองค์ประกอบพื้นฐาน 3 ส่วน ได้แก่ Sender Meedium
    และ Decoder
    5. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการรั​บ-ส่งเอกสาร
    จากหน่วยงานหนึ่งไปยังอีกหน่วยง​านหนึ่งโดยส่งผ่าน
    เครือข่าย


    วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

    บทที่ 3 การรู้สารสนเทศ

    1.ข้อใดเป็นความหมายที่ถูกต้องที่สุดของการรู้สาสนเทศ
    .ความสามารถของบุคคลในการเข้าถึง ประเมินและใช้งานสารสนเทศ
    2.จากกระบวนการรู้สารสนเทศทั้ง5ประการประการไหนสำคัญที่สุด
    .ความสามารถในการใช้และการสื่อสารสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
    3.ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของผู้รู้สารสนเทศ
    .ชอบใช้คอมพิวเตอร์ในการเล่นเกมส์
    4.ข้อใดไม่ใช่ความสำคัญของการรู้สารสนเทศ
    .สารสนเทศมีการเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็ว จนยากที่จะเข้าถึง
    5.ข้อใดเป็นการเรียงลำดับขั้นตอนของกระบวนการรู้สารสนเทศที่ถูกต้อง
    .5-4-1-2-3

    วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

    รายชื่อพรรคฝ่ายค้านและจำนวนที่นั่ง

    พรรคเพื่อไทย
    พรรคพลังประชาชน
    ฝ่ายค้าน ปชป ภท รท มาตุภูมิ รักษ์สันติ รวม 200 ที่นั่ง

    บทที่ 2 บทบาทสารสนเทศกับสังคม

    1.ให้นิสิตหารายชื่อเว็บไซต์หรือเทคโนโลยีสารสนเทศที่ให้บริการต่างๆ ตามหัวข้อเหล่านี้มาอย่างละ3 ราการ
    1.1 สาขาการศึกษา - http://www.siit.tu.ac.th/thai/thai.htmlสถาบันการศึกษานานาชาติ ด้านวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
    - http://www.onec.go.th เว็บไซต์ศูนย์รวมของข่าวสาร ความรู้ด้านการศึกษา นำเสนอข้อมูลทั้งในรูปแบบของตัวอักษร
    - http://www.ceted.org/cet_media
    ให้บริการสำเนาสื่อการศึกษา รายการโทรทัศน์และวิทยุ ที่ศูนย์ฯผลิต เป็นวีดิทัศน์ วีซีดี
    1.2 วิชาชีพธุรกิจ พาณิชย์ และสำนักงาน - http://www.bartercard.co.th
    - http://www.ustbc.org
    - http://www.worldtradeaa.com
    1.3 วิชาชีพสื่อมวลชน - http://www.ndwc.or.th/
    - http://www.marketinstantly.com
    - http://www.thaisnews.com
    1.4 วิชาชีพทางอุตสาหกรรม บริษัท เฟสโต้ จำกัด - http://www.festo.com
    ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ลมที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม
    - http://www.philipmorrisinternationa
    - http://www.marubeni.com

    1.5วิชาชีพทางการแพทย์ -www.innoplast.net
    -www.jico.co.th
    - http://www.cppluspack.com
    1.6 วิชาชีพทหารตำรวจ www.thaithesims3.com
    www.dmc.tv
    www.gun.in.th

    1.7 วิชาชีพวิศวกรรม www.iet.rmuti.ac.th/ie/html/abouIE_c.htm
    www.coe.or.th
    www.civilclub.net
    1.8 วิชาชีด้านเกษตรกรรม www.agkmstou.com
    www.thaikasetsart.com
    www.thaikasetsart.com
    1.9 เกี่ยวกับคนพิการ www.tddf.or.th
    www.tddf.or.th
    www.braille-cet.in.th
    2.มหาลัยวิทยาลัยมหาสารคามเตรียมเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการศึกษาให้ท่าน มีอะไรบ้างบอกมา 3 อย่าง
    -คอมพิวเตอร์
    -จอโปรเจคเตอร์
    -ทีวี
    3.จากข้อ 2 จงวิเคราะห์ว่าเราจะเอาเทคโนโลยีเหล่านั้นมาทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองอย่างไร
    -ใช้ในการสืบค้นหาข้อมูลและหางานเกี่ยวกับการเรียนและใช้เป็นการเป็นการดูและเป็นสื่อในการเรียนและหาความรู้

    วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

    แบบฝึกหัดบทที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสารสนเทศ

    1.ข้อมูลหมายถึง ข้อเท็จจริง หรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ เช่น คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ ฯลฯ ข้อมูลจึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ของสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการรวบรวมข้อมูลอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ดังจะเห็นจากกระบวนการเลือกตั้งที่ผ่านมา หลายพรรคการเมืองมีการใช้เทคโนโลยีรวบรวมข้อมูล หาวิธีการที่จะให้ได้ข้อมูลอย่างรวดเร็ว และมื่อสถานการณ์บางอย่างเกิดผันแปรขึ้น การเตรียมการหรือการแก้สถานการณ์จะดำเนินการได้อย่างทันท่วงที
    2.ข้อมูลปฐมภูมิคือ สารสนเทศที่ได้มาจากต้นแหล่งโดยตรงเป็นสารสนเทศทางวิชาการ
    ยกตัวอย่างประกอบ เช่น วารสาร รายงานการวิจัย สิทธิบัตร
    3.ข้อมูลทุติยภูมิคือ สารสนเทศที่มีการรวบรวม เรียบเรียงขึ้นใหม่จากแหล่งสารสนเทสปฐมภูมิ
    ยกตัวอย่างประกอบ เช่น สื่ออ้างอิงประเภทต่างๆ สารนุกรม พจนานุกรม รายงานสถิติต่างๆ
    4.สารสนเทศหมายถึง ข้อมูลข่าวสารที่ได้มีการจัดการทางความคิด คำนวณ ประมวลผล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ทันต่อการใช้ังานและทันเวลา
    5.จงอธิบายประเภทสารสนเทศ
    จำแนกออกเป็น 2 ส่วน คือ
    1.ตามแหล่งสารสนเทศ
    2.ตามสื่ออที่จัดเก็บและบันทึก
    6.ข้อเท็จจริงของสิ่งต่างๆที่อาจเป้นตัวเลขข้อความรูปภาพเสียงคือ สื่ออิเล็กทรอนกส์
    7.ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลเป็น ข่าวสารหรือสารสนเทศ
    8.ส่วนสูงของเพื่อนที่ถามจากเพื่อนแต่ละคนเป็น ข้อมูล
    9.ผลของการลงททะเบียนเป็น สารสนเทศ
    10.กราฟแสดงจำนวนนิสิตในห้องเรียนวิชาการจัดการสารสนเทศเทคโนโลยียุคใหม่ในชีวิตประจำวันsectionวันอังคารเป็น ข้อมูล

    ความแตกต่างของลักษณะการเรียนในโรงเรียนและในมหาวิทยาลัย

    โรงเรียน - ท่องจำ ทำตามองค์ความรู้ ที่มีผู้หวังดีกำหนดให้มาเพื่อให้สอบผ่าน
    มหาวิทยาลัย - ตั้งคำถาม แสวงหาคำตอบที่หลากหลาย ผลิตวิชาการที่
    ไม่ใช่คำตอบสำเร็จรูป มีการสร้างองค์ความรู้ใหม่ ๆ ที่ตอบคำถามใหม่ ๆ
    อยู่ตลอดเวลา มีกิจกรรมวิพากษ์ วิจารณ์องค์ความรู้ เปิดเผย ถอดระหัส
    องค์ความรู้ และวิธีสอน ก็คือ ใช้ไดอะแลคติค ให้ผู้เรียนค้นคว้าสร้าง
    องค์ความรู้ด้วยความเป็นตัวของตัวเอง ประยุกต์ใช้องค์ความรู้ พลิกแพลง
    องค์ความรู้ได้
    ดังนั้น สาระของมหาวิทยาลัยจึงไม่ใช่แค่ชื่อ แต่เป็นพฤติกรรมจริง ๆ

    สรุปความหมายของการรู้สารสนเทศและกระบวนการรู้สารสนเทศ

    การรู้สารสนเทศ คือ ความสามารถในการเข้าถึงสารสนเทศการประเมินสารสนเทศและการนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ
    จำแนกทักษะการเรียนรู้ได้เป็น 4 ลักษณะ คือ
    1.ทักษะสารสนเทศและการสื่อสาร
    2.ทักษะการคิดและแก้ปัญหา
    3.ทักษะการชี้นำตนเอง
    4.การรับผิดชอบ
    องค์ประกอบการรู้สารสนเทศ ประกอบด้วยความเข้าใจ และความสามารถ
    1.ความสามารถในการเข้าถึงสารสนเทศ
    2.ความสามารถในการประเมินสารสนเทศ
    3.ความสามารถในการใช้สารสนเทศ
    คุณลักษณะ คือ ลักษณะที่ให้คุณแก่เรา
    คุณลักษณะการรู้สารสนเทศ
    1.ตระหนักถึงความจำเป็นของสารสนเทศ
    2.สามารถกำหนดขอบเขตสารสนเทศที่จำเป็น
    3.เข้าถึงสารสนเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    4.ประเมินสารสนเทศและแหล่งสารสนเททศได้
    5.นำสารสนเทศที่คักสรรแล้วมาสู่ความรู้เดิมได้
    6.มีประสิทธิภาพในการใช้สารสนเทศตรงตามวัตถุประสงค์
    7.เข้าใจประเด็นทางเศรษฐกิจสังคมและกฎหมายในการใช้สารสนเทศ
    8.เข้าถึงและใช้สารสนเทศได้อย่างมีจริยธรรม
    9.แบ่งประเภทจัดเก็บและสร้างความเหมาะสมให้กับสารสนเทศที่รวบรวมไว้
    10.ตระหนักว่าการรู้สารสนเทศช่วยให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต
    การรู้สารสนเทศจึงเป็นกระบวนการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาทักษะการรู้สารสนเทศโดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในบริบททุกอย่างในชีวิตบุคล
    เพื่อความสำเร็จในการศึกษาทั้งในระบบและนอกระบบ

    วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

    ข้อสอบ 6 ข้อที่น่าจะออก

    1.ศักยภาพของเทคโนโลยีไฮเทค 5 กลุ่ม สำคัญในปัจจุบันมีอะไรบ้าง
    2.เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเรื่องใกล้ชิดและเกี่ยวพันกับชีวิตประจำวันของมนุษย์ในด้านใด
    3.สารสนเทศใดมีความสำคัญต่อสังคมในด้านต่างๆ
    4.สารสนเทศมีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่ที่เรียกว่าอะไร
    5.หน่วยงานหรือผู้ประะกอบกาารธุรกิจให้ความสำคัญกับเรื่องใด
    6.เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการสื่อสารสารสนเทศซึ่งถือเป็นสิ่งที่จะตัดขาดจากกันไม่ได้เรียกว่าอะไร

    วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

    สรุปผลการเลือกตั้ง

    ในที่สุดแล้ว การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยที่นำโดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สามารถกวาด ส.ส.ทิ้งห่างพรรคประชาธิปัตย์ที่นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไปกว่า 100 เก้าอี้ พร้อมกับคว้าคะแนนเสียงเกินครึ่งหนึ่งและสามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ

    สำหรับผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ มีดังนี้

    1.พรรคเพื่อไทย ได้ ส.ส.แบ่งเขต 201 คน บัญชีรายชื่อ 61 คน รวม 262 คน
    2.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ ส.ส.แบ่งเขต 116 คน บัญชีรายชื่อ 44 คน รวม 160 คน
    3.พรรคภูมิใจไทย ได้ ส.ส.แบ่งเขต 29 คน บัญชีรายชื่อ 5 คน รวม 34 คน
    4.พรรคชาติไทยพัฒนา ได้ ส.ส.แบ่งเขต 15 คน บัญชีรายชื่อ 4 คน รวม 19 คน
    5.พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ได้ ส.ส.แบ่งเขต 6 คน บัญชีรายชื่อ 1 คน รวม 7 คน
    6.พรรคพลังชล ได้ ส.ส.แบ่งเขต 6 คน บัญชีรายชื่อ 1 คน รวม 7 คน
    7.พรรครักประเทศไทย ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 4 คน
    8.พรรคมาตุภูมิ ได้ ส.ส.แบ่งเขต 1 คน บัญชีรายชื่อ 1 คน รวม 2 คน
    9.พรรครักษ์สันติ ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน
    10. พรรคประชาธิปไตยใหม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน
    11.พรรคมหาชน ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน

    ทั้งนี้ รายชื่อว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่ออย่างไม่เป็นทางการ ( ณ วันที่ 4 กรกฎาคม เวลา 11.00 น.) ทั้งหมด 125 คน มีดังนี้

    พรรคเพื่อไทย ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งหมด 61 คน ได้แก่

    1.น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
    2.ยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย
    3.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
    4.เสนาะ เทียนทอง
    5.พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก
    6.มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์
    7.ปลอดประสพ สุรัสวดี
    8.จตุพร พรหมพันธุ์
    9.ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
    10.สุชาติ ธาดาธำรงเวช
    11.พล.ต.ท.ชัชจ์ กุลดิลก
    12.จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ
    13.บัณฑูร สุภัควณิช
    14.พ.อ.ดร.อภิวันท์ วิริยะชัย
    15.สันติ พร้อมพัฒน์
    16.พล.ต.อ.วิรุฬ พื้นแสน
    17.พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์
    18.วิรุฬ เตชะไพบูลย์
    19.เหวง โตจิราการ
    20.สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล
    21.นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล
    22.วัฒนา เมืองสุข
    23. พลเอกยุทธศักดิ์ ศศิประภา
    24.นิติภูมิ นวรัตน์
    25.นางสาวภูวนิดา คุนผลิน
    26.สุนัย จุลพงศธร
    27.นางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง
    28.คณวัฒน์ วศินสังวร
    29.อัสนี เชิดชัย
    30.นางสาวสุณีย์ เหลืองวิจิตร
    31.พันตรี อาณันย์ วัชโรทัย
    32.วิรัช รัตนเศรษฐ
    33.พรศักดิ์ เจริญประเสริฐ
    34.นภินทร ศรีสรรพางค์
    35.ถาวร ตรีรัตน์ณรงค์
    36.นางวราภรณ์ ตั้งภาภรณ์
    37.นางสาวสุนทรี ชัยวิรัตนะ
    38.นางสาวตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร
    39.สมพล เกยุราพันธุ์
    40.นพงศกร อรรณนพพร
    41.นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์
    42.นางสาวขัตติยา สวัสดิผล
    43.ธนเทพ ทิมสุวรรณ
    44.นางสาวกฤษณา สีหลักษณ์
    45.เกียรติชัย ติรณศักดิ์กุล
    46.วิภูแถลง พัฒนภูมิไท
    47.นางเยาวนิตย์ เพียงเกษ
    48.พายัพ ปั้นเกตุ
    49.นางรังสิมา เจริญศิริ
    50.รองศาสตราจารย์เชิดชัย ตันติศิรินทร์
    51.กานต์ กัลป์ตินันท์
    52.ธนิก มาสีพิทักษ์
    53.พิชิต ชื่นบาน
    54.ก่อแก้ว พิกุลทอง
    55.นิยม วรปัญญา
    56.นางสาวจารุพรรณ กุลดิลก
    57.อรรถกร ศิริลัทธยากร
    58.เวียง วรเชษฐ์
    59.อดิศักดิ์ โภคกุลกานนท์
    60.วิเชียร ขาวขำ
    61.ประวัฒน์ อุตโมท

    พรรคประชาธิปัตย์ ได้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 44 คน ได้แก่

    1.อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
    2.ชวน หลีกภัย
    3.บัญญัติ บรรทัดฐาน
    4.เทอดพงษ์ ไชยนันทน์
    5.จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
    6.กรณ์ จาติกวนิช
    7. คุณหญิงกัลยา โสภณพาณิช
    8.อภิรักษ์ โกษะโยธิน
    9.นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี
    10.นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์
    11.นายไพฑูรย์ แก้วทอง
    12.นายอิสสระ สมชัย
    13.นายเจริญ คันธวงศ์
    14.นายอลงกรณ์ พลบุตร
    15.นายอาคม เอ่งฉ้วน
    16.นายนิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์
    17.สุทัศน์ เงินหมื่น
    18.องอาจ คล้ามไพบูลย์
    19.พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
    20.วิฑูรย์ นามบุตร
    21.ถวิล ไพรสณฑ์
    22. นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู
    23.พ.อ.วินัย สมพงษ์
    24.สุวโรช พะลัง (เสียชีวิต)
    25.ดร.ผุสดี ตามไท
    26.ปัญญวัฒน์ บุญมี
    27.สามารถ ราชพลสิทธิ์
    28.นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์
    29.ภุชงค์ รุ่งโรจน์
    30.นิพนธ์ บุญญามณี
    31.นางอานิก อัมระนันทน์
    32.โกวิทย์ ธารณา
    33.อัศวิน วิภูศิริ
    34.ธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ
    35.เกียรติ สิทธิอมร
    36. บุญยอด สุขถิ่นไทย
    37.กนก วงษ์ตระหง่าน
    38.พล.อ.พิชาญเมธ ม่วงมณี
    39.สุกิจ ก้องธรนินทร์
    40.ประกอบ จิรกิติ
    41.พีรยศ ราฮิมมูลา
    42.กษิต ภิรมย์
    43.วีระชัย วีระเมธีกุล
    44. นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท
    45.วัชระ เพชรทอง

    หมายเหตุ: เนื่องจากนายสุวโรช พะลัง ผู้สมัคร ส.ส.ลำดับที่ 24 เสียชีวิตเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน จึงเลื่อนลำดับที่ 45 ขึ้นมาแทน

    พรรคภูมิใจไทย ได้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 5 คน ได้แก่

    1.ชวรัตน์ ชาญวีรกูล
    2.ชัย ชิดชอบ
    3.เรืองศักดิ์ งามสมภาค
    4.นางนาที รัชกิจประการ
    5.ศุภชัย ใจสมุทร

    พรรครักประเทศไทย ได้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 4 คน ได้แก่

    1.ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์
    2.นายชัยวัฒน์ ไกฤกษ์
    3.โปรดปราน โต๊ะราหนี
    4.พงษ์ศักดิ์ เรือนเงิน

    พรรคชาติไทยพัฒนา ได้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 4 คน ได้แก่

    1.ชุมพล ศิลปอาชา
    2.พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์
    3.นิติวัฒน์ จันทร์สว่าง
    4.ยุทธพล อังกินันทน์

    พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ได้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 4 คน ได้แก่

    1.ร.ต.ประพาส ลิมปะพันธุ์
    2.ชาญชัย ชัยรุ่งเรือง

    พรรคมาตุภูมิ ได้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 1 คน ได้แก่

    1.พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน

    พรรคพลังชล ได้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 1 คน ได้แก่

    1.นายสันตศักย์ จรูญงามพิเชษฐ์

    พรรครักษ์สันติ ได้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 1 คน ได้แก่

    1.ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์

    พรรคมหาชน ได้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 1 คน ได้แก่

    1.นายอภิรัต ศิรินาวิน

    พรรคประชาธิปไตยใหม่ ได้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 1 คน ได้แก่

    1.นางพัชรินทร์ มั่นปาน

    และถ้าหากตรวจสอบคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อเป็นรายภาค จะพบว่า

    - ภาคเหนือ เลือกพรรคเพื่อไทย 49.69% พรรคประชาธิปัตย์ 29.67% พรรคชาติไทยพัฒนา 3.60% พรรคภูมิใจไทย 2.00% พรรครักประเทศไทย 1.86% พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 0.93% พรรคมหาชน 0.57% พรรครักษ์สันติ 0.50% พรรคอื่น ๆ อีก 11.18%

    - ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เลือกพรรคเพื่อไทย 63.49% พรรคประชาธิปัตย์ 13.45% พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 3.32% พรรคชาติไทยพัฒนา 2.08% พรรครักประเทศไทย 1.34% พรรครักษ์สันติ 0.42% พรรคกิจสังคม 0.34% พรรคอื่น ๆ อีก 15.56%

    - ภาคกลาง เลือกพรรคเพื่อไทย 38.8% พรรคประชาธิปัตย์ 35.14% พรรคชาติไทยพัฒนา 4.12% พรรครักประเทศไทย 4.1% พรรคภูมิใจไทย 3.36% พรรคพลังชล 1.67% พรรครักษ์สันติ 0.99% พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน 0.55% พรรคมาตุภูมิ 0.50% พรรคอื่น ๆ อีก 10.77%

    - ภาคใต้ เลือกพรรคประชาธิปัตย์ 70.42% พรรคเพื่อไทย 7.63% พรรคมาตุภูมิ 3.3% พรรคภูมิใจไทย 2.94% พรรครักประเทศไทย 2.07% พรรคชาติไทยพัฒนา 1.03% พรรคแทนคุณแผ่นดน 0.91% พรรคมหาชน 0.72% พรรคประชาธรรม 0.57% พรรคประชาธิปไตยใหม่ 0.50% พรรคอื่น ๆ อีก 9.91%

    - กรุงเทพมหานคร เลือกพรรคประชาธิปัตย์ 41.62% พรรคเพื่อไทย 39.69% พรรครักประเทศไทย 6.89% พรรครักษ์สันติ 2.66% พรรคมาตุภูมิ 0.39% พรรคชาติไทยพัฒนา 0.34% พรรคกิจสังคม 0.27% พรรคภูมิใจไทย 0.26% พรรคอื่น ๆ อีก 7.88%

    ขณะที่ผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบ่งเขต จำนวนทั้งหมด 375 คน อย่างไม่เป็นทางการ ( ณ วันที่ 4 กรกฎาคม เวลา 11.00 น.) ปรากฏว่า

    - พรรคเพื่อไทย ได้ ส.ส.แบ่งเขต ทั้งหมด 201 คน แบ่งเป็นภาคเหนือ 49 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 101 คน ภาคกลาง 41 คน กรุงเทพมหานคร 10 คน ภาคใต้ไม่ได้ ส.ส.

    - พรรคประชาธิปัตย์ ได้ ส.ส.แบ่งเขต ทั้งหมด 116 คน แบ่งเป็นภาคเหนือ 13 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 คน ภาคกลาง 25 คน กรุงเทพมหานคร 23 คน และภาคใต้ 50 คน

    - พรรคภูมิใจไทย ได้ ส.ส.แบ่งเขต ทั้งหมด 29 คน แบ่งเป็นภาคเหนือ 2 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13 คน ภาคกลาง 13 คน และภาคใต้ 1 คน ส่วนกรุงเทพมหานครไม่มี ส.ส.

    - พรรคชาติไทยพัฒนา ได้ ส.ส.แบ่งเขต ทั้งหมด 15 คน แบ่งเป็นภาคเหนือ 2 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 คน ภาคกลาง 11 คน และภาคใต้ 1 คน ส่วนกรุงเทพมหานครไม่มี ส.ส.

    - พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ได้ ส.ส.แบ่งเขต ทั้งหมด 7 คน แบ่งเป็นภาคเหนือ 1 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6 คน ส่วนภาคกลาง ภาคใต้ และกรุงเทพมหานครไม่มี ส.ส.

    - พรรคพลังชล ได้ ส.ส.แบ่งเขต ทั้งหมด 6 คน มาจากจังหวัดชลบุรีทั้งหมด 6 ที่นั่ง

    - พรรคมาตุภูมิ ได้ ส.ส.แบ่งเขต 1 คน จากเขต 3 จังหวัดปัตตานี

    รายชื่อว่าที่ ส.ส.แบ่งเขต (อย่างไม่เป็นทางการ)

    กรุงเทพมหานคร

    เขต 1 นางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 2 นางสาวอรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 3 หม่อมหลวงอภิมงคล โสณกุล พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 4 นายอนุชา บูรพชัยศรี พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 5 นางสาวลีลาวดี วัชโรบล พรรคเพื่อไทย
    เขต 6 นายธนา ชีรวินิจ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 7 นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 8 นายสรรเสริญ สมะลาภา พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 9 นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 10 นายชื่นชอบ คงอุดม พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 11 นายสุรชาติ เทียนทอง พรรคเพื่อไทย
    เขต 12 นายการุณ โหสกุล พรรคเพื่อไทย
    เขต 13 น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ พรรคเพื่อไทย
    เขต 14 นายอนุสรณ์ ปั้นทอง พรรคเพื่อไทย
    เขต 15 นายณัฎฐ์ บรรทัดฐาน พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 16 นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ พรรคเพื่อไทย
    เขต 17 นายวิชาญ มีนชัยนันท์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 18 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 19 นายไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 20 นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 21 นางนาถยา เบ็ญจศิริวรรณ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 22 นายสามารถ มะลูลีม พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 23 นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 24 นายสุรันต์ จันทร์พิทักษ์ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 25 นางนันทพร วีรกุลสุนทร พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 26 นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 27 นายสากล ม่วงศิริ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 28 พันตำรวจเอกสามารถ ม่วงศิริ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 29 นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 30 นางอรอนงค์ คล้ายนก พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 31 นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 32 นายชนินทร์ รุ่งแสง พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 33 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก พรรคประชาธิปัตย์

    ภาคเหนือ

    กำแพงเพชร

    เขต 1 นายไผ่ ลิกค์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นายปรีชา มุสิกุล พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 3 นายอนันต์ ผลอำนวย พรรคเพื่อไทย
    เขต 4 นายปริญญา ฤกษ์หร่าย พรรคเพื่อไทย

    เชียงราย พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ทั้งจังหวัด

    เขต 1 นายสามารถ แก้วมีชัย พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 3 น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 4 นายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 5 นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน พรรคเพื่อไทย
    เขต 6 นายอิทธิเดช แก้วหลวง พรรคเพื่อไทย
    เขต 7 น.ส.ละออง ติยะไพรัช พรรคเพื่อไทย

    เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยได้ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1 น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นายกฤษดาภรณ์ เสียมภักดี พรรคเพื่อไทย
    เขต 3 น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 4 นายวิทยา ทรงคำ พรรคเพื่อไทย
    เขต 5 นายประสิทธิ์ วุฒินันชัย พรรคเพื่อไทย
    เขต 6 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 7 นายบุญทรง เตริยาภิรมณ์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 8 นายนพคุณ รัฐไผท พรรคเพื่อไทย
    เขต 9 นายสุรพล เกียรติไชยากร พรรคเพื่อไทย
    เขต 10 นายศรีเรศ โกฏิคำลือ พรรคเพื่อไทย

    ตาก พรรคประชาธิปัตย์ได้ยกจังหวัด

    เขต 1 นายเธียรชัย สุวรรณเพ็ญ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 2 นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 3 นายธนิตพล ไชยนันทน์ พรรคประชาธิปัตย์

    นครสวรรค์

    เขต 1 นายสงกรานต์ จิตสุทธิภากร พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 2 นายทรงศักดิ์ ส่งเสริมธรรมชัย พรรคภูมิใจไทย
    เขต 3 ร.ต.ต.จำเริญ วรทอง พรรคภูมิใจไทย
    เขต 4 พ.ต.ท.นุกูล แสงศิริ พรรคเพื่อไทย
    เขต 5 นายทายาท เกียรติชูศักดิ์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 6 นายประสาท ตันประเสริฐ พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน

    น่าน พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1นางสิรินทร รามสูต พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นายชลน่าน ศรีแก้ว พรรคเพื่อไทย
    เขต 3 นายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ พรรคเพื่อไทย

    พะเยา พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1 น.ส.อรุณี ชำนาญยา พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ พรรคเพื่อไทย
    เขต 3 นายไพโรจน์ ตันบรรจง พรรคเพื่อไทย

    แพร่ พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1 นางปานหทัย เสรีรักษ์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นายนิยม วิวรรธนดิฐกุล พรรคเพื่อไทย
    เขต 3 นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล พรรคเพื่อไทย

    พิจิตร

    เขต1 นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ พรรคชาติไทยพัฒนา
    เขต 2 นายนราพัฒน์ แก้วทอง พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 3 นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ พรรคชาติไทยพัฒนา

    พิษณุโลก

    เขต 1 นายวรงค์ เดชกิจวิกรม พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 2 นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ พรรคชาติไทยพัฒนา
    เขต 3 นายจุติ ไกรฤกษ์ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 4 นายนิยม ช่างพินิจ พรรคเพื่อไทย
    เขต 5 นายนคร มาฉิม พรรคประชาธิปัตย์

    เพชรบูรณ์

    เขต 1 นายสุทัศน์ จันทร์แสงศรี พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นายจักรัตน์ พั้วช่วย พรรคเพื่อไทย
    เขต 3 นายยุพราช บัวอินทร์ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 4 นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 5 นายสุรศักดิ์ อนรรฆพันธ์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 6 นายเอี่ยม ทองใจสด พรรคเพื่อไทย

    แม่ฮ่องสอน

    เขต 1 นายสมบัติ ยะสินธุ์ พรรคประชาธิปัตย์

    ลำปาง พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1นายสมโภช สายเทพ พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นายวาสิต พยัคฆบุตร พรรคเพื่อไทย
    เขต 3 นายจรัสฤทธิ์ จันทรสุรินทร์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 4 นายอิทธิรัตน์ จันทรสุรินทร์ พรรคเพื่อไทย

    ลำพูน พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1 นายสงวน พงษ์มณี พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นายสถาพร มณีรัตน์ พรรคเพื่อไทย

    สุโขทัย

    เขต 1 นายวิรัตน์ วิริยะพงษ์ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 2 นายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 3 นายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกุล พรรคภูมิใจไทย
    เขต 4 นายมนู พุกประเสริฐ พรรคภูมิใจไทย

    อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทยได้ยกจังหวัด

    เขต 1 นายกนก ลิ้มตระกูล พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ พรรคเพื่อไทย
    เขต 3 นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย พรรคเพื่อไทย

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

    กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1 นางบุญรื่น ศรีธเรศ
    เขต 2 นางวีระวัฒน์ โอสถานุเคราะห์
    เขต 3 นายคมเดช ไชยศิวามงคล
    เขต 4 นายพีระเพชร ศิริกุล
    เขต 5 นายนิพนธ์ ศรีธเรศ
    เขต 6 นายประเสริฐ บุญเรือง

    ขอนแก่น พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1 นายจักริน พัฒน์ดำรงจิตร พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นาย ภูมิ สาระผล พรรคเพื่อไทย
    เขต 3 นายจตุพร เจริญเชื้อ พรรคเพื่อไทย
    เขต 4 นางมุกดา พงษ์สมบัติ พรรคเพื่อไทย
    เขต 5 นายสุชาย ศรีสุรพล พรรคเพื่อไทย
    เขต 6 นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 7 นายนวัธ เตาะเจริญสุข พรรคเพื่อไทย
    เขต 8 นางดวงแข อรรณพพร พรรคเพื่อไทย
    เขต 9 ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิชย์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 10 นายเรืองเดช สุพรรณฝ่าย พรรคเพื่อไทย

    ชัยภูมิ

    เขต 1นายโอชิษฐ์ เกียรติก้องชูชัย พรรคภูมิใจไทย
    เขต 2นายมานะ โลหะวณิชย์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 3น.ส.ปาริชาติ ชาลีเครือ พรรคเพื่อไทย
    เขต 4นายอนันต์ ลิมปคุปตถาวร พรรคเพื่อไทย
    เขต 5นายเจริญ จรรย์โกมล พรรคเพื่อไทย
    เขต 6นางพรเพ็ญ บุญศิริวัฒนกุล พรรคเพื่อไทย
    เขต 7นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์ พรรคเพื่อไทย

    นครพนม พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1 นายยุทธจักร เรืองวรบูรณ์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นางมนพร เจริญศรี พรรคเพื่อไทย
    เขต 3 นายไพจิต ศรีวรขาน พรรคเพื่อไทย
    เขต 4 นายชูกัน กุลวงษา พรรคเพื่อไทย

    นครราชสีมา

    เขต 1 นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน
    เขต 2 นายวัชรพล โตมรศักดิ์ พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน
    เขต 3 นายประเสริฐ บุญชัยสุข พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน
    เขต 4 นางทัศนียา รัตนเศรษฐ พรรคเพื่อไทย
    เขต 5 นายโกศล ปัทมะ พรรคเพื่อไทย
    เขต 6 นายสุชาติ ภิญโญ พรรคเพื่อไทย
    เขต 7 นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ พรรคเพื่อไทย
    เขต 8 นายจรูญพงศ์ พันธุ์ศรีนคร พรรคเพื่อไทย
    เขต 9 นายพลพรี สุวรรณฉวี พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน
    เขต 10 นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ พรรคภูมิใจไทย
    เขต 11 นายสัมภาษณ์ อัตถาวงศ์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 12 นายประนอม โพธิ์คำ พรรคภูมิใจไทย
    เขต 13 นายศิรสิทธิ์ เลิศด้วยลาภ พรรคเพื่อไทย
    เขต 14 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง พรรคเพื่อไทย
    เขต 15 นายวิสิทธิ์ พิทยาภรณ์ พรรคภูมิใจไทย

    บึงกาฬ พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1 นายเชิดพงศ์ ราชป้องขันธ์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นายไตรรงค์ ติธรรม พรรคเพื่อไทย

    บุรีรัมย์

    เขต 1นายสนอง เทพอักษรณรงค์ พรรคภูมิใจไทย
    เขต 2นายรังสิกร ทิมาตฤกะ พรรคภูมิใจไทย
    เขต 3นายโสภณ ซารัมย์ พรรคภูมิใจไทย
    เขต 4นางอารีญาภรณ์ ซารัมย์ พรรคภูมิใจไทย
    เขต 5นายมนต์ไชย ชาติวัฒนศิริ พรรคภูมิใจไทย
    เขต 6นายพรชัย ศรีสุริยันโยธิน พรรคเพื่อไทย
    เขต 7นายหนูแดง วรรณกางซ้าย พรรคเพื่อไทย
    เขต 8นายรุ่งโรจน์ ทองศรี พรรคภูมิใจไทย
    เขต 9นายจักรกฤษณ์ ทองศรี พรรคภูมิใจไทย

    มหาสารคาม พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1นายสุรจิตร ยนต์ตระกูล พรรคเพื่อไทย
    เขต 2นายไชยวัฒน์ ติณรัตน์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 3นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร พรรคเพื่อไทย
    เขต 4นายจิรวัฒน์ ศิริพานิชย์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 5นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท พรรคเพื่อไทย

    มุกดาหาร พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1 นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นายบุญฐิน ประทุมลี พรรคเพื่อไทย

    ยโสธร พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1 นายปิยวัฒน พันธ์สายเชื้อ พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นายบุญแก้ว สมวงศ์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 3 นายพีรพันธ์ พาลุสุข พรรคเพื่อไทย

    ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1 นายวราวงษ์ พันธุ์ศิลา พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นายฉลาด ขามช่วง พรรคเพื่อไทย
    เขต 3 นายนิรมิต สุจารี พรรคเพื่อไทย
    เขต 4 นายนิรันดร์ นาเมืองรักษ์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 5 นางเอมอร สินธุไพร พรรคเพื่อไทย
    เขต 6 นายกิตติ สมทรัพย์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 7 นายศักดา คงเพชร พรรคเพื่อไทย
    เขต 8 นายเศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ พรรคเพื่อไทย

    เลย พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1 นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นางนันทนา ทิมสวรรณ พรรคเพื่อไทย
    เขต 3 นางเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข พรรคเพื่อไทย
    เขต 4 ส.อ.วันชัย บุษบา พรรคเพื่อไทย

    ศรีษะเกษ

    เขต 1 นายธเนศ เครือรัตน์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นายสุรชาติ ชาญประดิษฐ์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 3 นางอุดมลักษณ์ เพ็งนรพัฒน์ พรรคภูมิใจไทย
    เขต 4 นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ พรรคเพื่อไทย
    เขต 5 นายธีระ ไตรสรณกุล พรรคเพื่อไทย
    เขต 6 นายวีระพล จิตสัมฤทธิ์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 7 นายมานพ จรัสดำรงนิตย์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 8 นายปวีณ แซ่จึง พรรคเพื่อไทย

    สกลนคร พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1 นายอภิชาต ตีรสวัสดิชัย พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นายนิยม เวชกามา พรรคเพื่อไทย
    เขต 3 นายนริศร ทองธิราช พรรคเพื่อไทย
    เขต 4 นายพัฒนา สัพโส พรรคเพื่อไทย
    เขต 5 นางอนุรักษ์ บุญศล พรรคเพื่อไทย
    เขต 6 นายเสรี สาระนันท์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 7 นายเกษม อุประ พรรคเพื่อไทย

    สุรินทร์

    เขต 1 นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร พรรคภูมิใจไทย
    เขต 2 นางปิยะดา มุ่งเจริญพร พรรคเพื่อไทย
    เขต 3 นางคุณากร ปรีชาชนะชัย พรรคเพื่อไทย
    เขต 4 นายตี๋ใหญ่ พูนศรีธนากูล พรรคเพื่อไทย
    เขต 5 นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม พรรคเพื่อไทย
    เขต 6 จ.ส.ต.ประสิทธ์ ไชยศรีษะ พรรคเพื่อไทย
    เขต 7 นายสมบัติ ศรีสุรินทร์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 8 นายชูศักดิ์ แอกทอง พรรคเพื่อไทย

    หนองคาย พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1 นายพงศ์พันธ์ สุนทรชัย พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นายสมคิด บาลไธสง พรรคเพื่อไทย
    เขต 3 นางชมภู จันทาทอง พรรคเพื่อไทย

    หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1 นายพิษณุ หัตถสงเคราะห์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นายไชยา พรหมา พรรคเพื่อไทย
    เขต 3 นายวิชัย สามิตร พรรคเพื่อไทย

    อุดรธานี พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1 นายศราวุธ เพชรพนมพร พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 พ.ต.ท.สุรทิน พิมานเมฆินทร์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 3 นายอนันต์ ศรีพันธ์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 4 นายขจิตร ชัยนิคม พรรคเพื่อไทย
    เขต 5 นายทองดี มนิสสาร พรรคเพื่อไทย
    เขต 6 นายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 7 นายจักรพรรดิ ไชยสาส์น พรรคเพื่อไทย
    เขต 8 นายเกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม พรรคเพื่อไทย
    เขต 9 นางเทียบจุฑา ขาวขำ พรรคเพื่อไทย

    อุบลราชธานี

    เขต 1 นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นาย ศุภชัย ศรีหล้า พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 3 นายวุฒิพงษ์ นามบุตร พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 4 นายสุพล ฟองงาม พรรคเพื่อไทย
    เขต 5 นายสุทธิชัย จรูญเนตร พรรคเพื่อไทย
    เขต 6 นายพิสิษฐ์ สันตะพันธ์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 7 นายชูวิทย์ กุ่ย พิทักษ์พรพัลลภ พรรคเพื่อไทย
    เขต 8 น.ส.บุณย์ธิดา สมชัย พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 9 นายปัญญา จินตะเวช พรรคเพื่อไทย
    เขต 10 นายสมคิด เชื้อคง พรรคเพื่อไทย
    เขต 11 นายตุ่น จินตะเวช พรรคชาติไทยพัฒนา

    อำนาจเจริญ

    เขต 1 นางสมหญิง บัวบุตร พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นายอภิวัฒน์ เงินหมื่น พรรคประชาธิปัตย์

    ภาคกลาง

    กาญจนบุรี

    เขต 1 พลเอกสมชาย วิษณุวงศ์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นายฉัตรพันธ์ เดชกิจสุนทร พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 3 นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ พรรคเพื่อไทย
    เขต 4 นายประชา โพธิพิพิธ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 5 นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ พรรคประชาธิปัตย์



    เขต 1 นายธวัชชัย อนามพงษ์ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 2 นายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 3 นายพงศ์เวช เวชชาชีวะ พรรคประชาธิปัตย์

    ฉะเชิงเทรา

    เขต 1 นายบุญเลิศ ไพรินทร์ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 2 นายสมชัย อัศวชัยโสภณ พรรคเพื่อไทย
    เขต 3 นายรส มะลิผล พรรคเพื่อไทย
    เขต 4 พลตำรวจโทพิทักษ์ จารุสมบัติ พรรคประชาธิปัตย์

    ชลบุรี

    เขต 1 นายสุชาติ ชมกลิ่น พรรคพลังชล
    เขต 2 นายอุกฤษณ์ ตั๊นสวัสดิ์ พรรคพลังชล
    เขต 3 นายรณเทพ อนุวัฒน์ พรรคพลังชล
    เขต 4 นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 5 นายพันธุ์ศักดิ์ เกตุวัตถา พรรคพลังชล
    เขต 6 นางสุกุมล คุณปลื้ม พรรคพลังชล
    เขต 7 นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ พรรคพลังชล
    เขต 8 พลเรือเอกสุรพล จันทน์แดง พรรคเพื่อไทย

    ชัยนาท พรรคภูมิใจไทยได้ ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1 นางพรทิวา นาคาศัย พรรคภูมิใจไทย
    เขต 2 นางนันทนา สงฆ์ประชา พรรคภูมิใจไทย

    ตราด

    เขต 1 นายธีระ สลักเพชร พรรคประชาธิปัตย์

    นครนายก

    เขต 1 นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร พรรคภูมิใจไทย

    นครปฐม

    เขต 1 พันโทสินธพ แก้วพิจิตร พรรคชาติไทยพัฒนา
    เขต 2 นายรัฐกร เจนกิจณรงค์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 3 นายก่อเกียรติ สิริยะเสถียร พรรคเพื่อไทย
    เขต 4 นายอนุชา สะสมทรัพย์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 5 นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ พรรคเพื่อไทย

    นนทบุรี พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1 นายนิทัศน์ ศรีนนท์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นายอุดมเดช รัตนเสถียร พรรคเพื่อไทย
    เขต 3 นางวไลพร อัจฉริยะประสิทธิ์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 4 นายมนตรี ตั้งเจริญถาวร พรรคเพื่อไทย
    เขต 5 นายวันชัย เจริญนนทสิทธิ์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 6 นายฉลอง เรี่ยวแรง พรรคเพื่อไทย

    ปทุมธานี พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1 นายสุทิน นพขำ พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นายสุรพงษ์ อึ่งอัมพรวิไล พรรคเพื่อไทย
    เขต 3 นายสมศักดิ์ ใจแคล้ว พรรคเพื่อไทย
    เขต 4 นางสาวพรพิมล ธรรมสาร พรรคเพื่อไทย
    เขต 5 ว่าที่ร้อยตรีสุเมธ ฤทธาคนี พรรคเพื่อไทย
    เขต 6 นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ พรรคเพื่อไทย

    ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1 นายมนตรี ปาน้อยนนท์ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 2 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 3 นายประมวล พงศ์ถาวราเดช พรรคประชาธิปัตย์

    ปราจีนบุรี

    เขต 1 นายอำนาจ วิลาวัลย์ พรรคภูมิใจไทย
    เขต 2 นายชยุต ภุมมะกาญจนะ พรรคชาติไทยพัฒนา
    เขต 3 นางเพชรินทร์ เสียงเจริญ พรรคภูมิใจไทย

    พระนครศรีอยุธยา

    เขต 1 นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร พรรคชาติไทยพัฒนา
    เขต 2 นายพ้อง ชีวานันท์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 3 นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล พรรคเพื่อไทย
    เขต 4 นายวิทยา บุรณศิริ พรรคเพื่อไทย
    เขต 5 นายองอาจ วชิรพงศ์ พรรคเพื่อไทย

    เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ได้ ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1 นายอรรถพร พลบุตร พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 2 นายกัมพล สุภาแพ่ง พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 3 นายอภิชาต สุภาแพ่ง พรรคประชาธิปัตย์

    ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ได้ ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1 นายสาธิต ปิตุเตชะ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 2 นายบัญญัติ เจตนจันทร์ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 3 นายธารา ปิตุเตชะ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 4 นายวิชัย ล้ำสุทธิ พรรค ประชาธิปัตย์

    ราชบุรี

    เขต 1 นายมานิต นพอมรบดี พรรคภูมิใจไทย
    เขต 2 นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา พรรคภูมิใจไทย
    เขต 3 นางปารีณา ไกรคุปต์ พรรคชาติไทยพัฒนา
    เขต 4 นางสาวชะวรลัทธิ์ ชินธรรมมิตร พรรคภูมิใจไทย
    เขต 5 นายบุญดำรง ประเสริฐโสภา พรรคภูมิใจไทย

    ลพบุรี

    เขต 1 นายพิชัย เกียรติวินัยสกุล พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช พรรคภูมิใจไทย
    เขต 3 นายอำนวย คลังผา พรรคเพื่อไทย
    เขต 4 นายเกียรติ เหลืองขจรวิทย์ พรรคภูมิใจไทย

    สมุทรปราการ

    เขต 1 นางอรุณลักษณ์ กิจเลิศไพโรจน์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นายประเสริฐ ชัยกิจเด่นนภาลัย พรรคเพื่อไทย
    เขต 3 นางอนุสรา ยังตรง พรรคเพื่อไทย
    เขต 4 นายวรชัย เหมะ พรรคเพื่อไทย
    เขต 5 นางสลิลทิพย์ สุขวัฒน์ พรรคเพื่อไทย
    เขต 6 นางสาวเรวดี รัศมิทัศ พรรคภูมิใจไทย
    เขต 7 นายประชา ประสพดี พรรคเพื่อไทย

    สมุทรสงคราม

    เขต 1 นางสาวรังสิมา รอดรัศมี พรรคประชาธิปัตย์

    สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์ ได้ ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1 นายครรชิต ทับสุวรรณ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 2 นาวาตรี สุธรรม ระหงษ์ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 3 นายนิติรัฐ สุนทรวร พรรคประชาธิปัตย์

    สระแก้ว พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1 นายฐานิสร์ เทียนทอง พรรคเพื่อไทย
    เขต 2 นางสาวตรีนุช เทียนทอง พรรคเพื่อไทย
    เขต 3 นายสรวงศ์ เทียนทอง พรรคเพื่อไทย

    สระบุรี

    เขต 1 นางสาวกัลยา รุ่งวิจิตรชัย พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 2 นายอรรถพล วงษ์ประยูร พรรคเพื่อไทย
    เขต 3 นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ พรรคภูมิใจไทย
    เขต 4 นายองอาจ วงษ์ประยูร พรรคเพื่อไทย

    สิงห์บุรี

    เขต 1 นายสุรสาล ผาสุขทวี พรรคเพื่อไทย

    สุพรรณบุรี

    เขต 1 นายสรชัด สุจิตต์ พรรคชาติไทยพัฒนา
    เขต 2 นายชาญชัย ประเสริฐสุวรรณ พรรคชาติไทยพัฒนา
    เขต 3 นายนพดล มาตรศรี พรรคชาติไทยพัฒนา
    เขต 4 นางสาวพัชรี โพธสุธน พรรคชาติไทยพัฒนา
    เขต 5 นายสหรัฐ กุลศรี พรรคเพื่อไทย

    อ่างทอง พรรคชาติไทยพัฒนา ได้ ส.ส.ยกจังหวัด

    เขต 1 นายภราดร ปริศนานันทกุล พรรคชาติไทยพัฒนา
    เขต 2 นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล พรรคชาติไทยพัฒนา

    อุทัยธานี

    เขต 1 นายกุลเดช พัวพัฒนกุล พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 2 นายชาดา ไทยเศรษฐ์ พรรคชาติไทยพัฒนา

    ภาคใต้

    กระบี่

    เขต 1 นายสาคร เกี่ยวข้อง พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 2 นายสุชีน เอ่งฉ้วน พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 3 นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล พรรคประชาธิปัตย์

    ชุมพร

    เขต 1 นายชุมพล จุลใส พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 2 นายสราวุธ อ่อนละมัย พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 3 นายธีระชาติ ปางวิรุฬรักษ์ พรรคประชาธิปัตย์

    ตรัง
    เขต 1 นายสุกิจ อัถโถปกรณ์ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 2 นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 3 นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 4 นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล พรรคประชาธิปัตย์

    นครศรีธรรมราช

    เขต 1 นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 2 นางสาวนริศา อดิเทพวรพันธ์ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 3 นายวิทยา แก้วภราดัย พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 4 นายอภิชาต การิกาญจน์ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 5 นายประกอบ รัตนพันธ์ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 6 นายเทพไท เสนพงศ์ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 7 นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 8 นายสุรเชษฐ์ มาศดิตถ์ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 9 นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล พรรคประชาธิปัตย์

    นราธิวาส

    เขต 1 นายกูอาเซ็ม กูจินามิง พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 2 นายสุรเชษฐ์ แวอาแซ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 3 นายรำรี มามะ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 4 นายเจะอามิง โตะตาหยง พรรคประชาธิปัตย์

    ปัตตานี

    เขต 1 นายอันวาร์ สาและ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 2 นายอิสมาแอล เบญอิบรอฮีม พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 3 นายอนุมัติ ซูสารอ พรรคมาตุภูมิ
    เขต 4 นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ พรรคภูมิใจไทย

    พังงา

    เขต 1 นางกันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ พรรคประชาธิปัตย์

    พัทลุง

    เขต 1 นางสาวสุพัชรี ธรรมเพชร พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 2 นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 3 นายนริศ ขำนุรักษ์ พรรคประชาธิปัตย์

    ภูเก็ต

    เขต 1 นางอัญชลี เทพบุตร พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 2 นายเรวัต อารีรอบ พรรคประชาธิปัตย์

    ยะลา

    เขต 1 นายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 2 นายอับดุลการิม เด็งระกีนา พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 3 นายณรงค์ ดูดิง พรรคประชาธิปัตย์

    ระนอง

    เขต 1 นายวิรัช ร่มเย็น พรรคประชาธิปัตย์

    สงขลา

    เขต 1 นายเจือ ราชสีห์ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 2 นายภิรพล ลาภาโรจน์กิจ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 3 นายวิรัตน์ กัลยาศิริ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 4 นายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 5 นายประพร เอกอุรุ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 6 นายถาวร เสนเนียม พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 7 นายศิริโชค โสภา พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 8 พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ พรรคประชาธิปัตย์

    สตูล

    เขต 1 นายธานินทร์ ใจสมุทร พรรคชาติไทยพัฒนา
    เขต 2 นายฮอซาลี ม่าเหร็ม พรรคประชาธิปัตย์

    สุราษฎร์ธานี

    เขต 1 นายธานี เทือกสุบรรณ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 2 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 3 นางโสภา กาญจนะ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 4 นายเชน เทือกสุบรรณ พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 5 นายสินิตย์ เลิศไกร พรรคประชาธิปัตย์
    เขต 6 นายธีรภัทร พริ้งศุลกะ พรรคประชาธิปัตย์

    พรรครัฐบาลและจำนวนที่นั่ง

    พรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ในการเลือกตั้ง 2554 นี้ คือพรรคเพื่อไทย โดยได้จำนวน สส มากถึง 265 ที่นั่ง รายชื่อพรรคที่เข้าร่วมรัฐบาล มีรายชื่อดังนี้ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคมหาชน พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน และพรรคพลังชล รวมจำนวน สส ของรัฐบาลทั้งสิ้น 299 เสียง

    เทคโนโลยีสารสนเทศ

    เทคโนโลยี คือ เทคโนเกี่ยวข้องกับการจัดหา ประมวลผล จัดการและจัดเก็บ วิเคราะห์
    ฮาร์ตแวร์ ได้แก่ ซีพียู เม้าท์ แป้นพิมพ์
    ซอฟแวร์ ได้แก่ การลงโปรแกรม การลงข้อมูลต่างๆ
    โรจิติก คือ การวางแผนให้คุ้ม
    คุณสมบัติของสารสนเเทศ
    -สามารถเข้าถึงได้ง่าย
    -มีความมถูกต้อง
    -มีความครบถ้วน
    -ความเหมาะสม
    -ความชัดเจน
    -ความตรงต่อเวลา
    ทรัพยากรสารสนเทศ หมายถึง วัสดุหรือสือที่ใช้บันทึกข้อมูลข่าวสาร สารสนเทศ ความรู้ แบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ คือ
    1.ทรัพยากรตีพิมพ์ เช่น หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ จุลสาร
    2.ทรัพยากรไม่ตีพิมพ์ เช่น ทัศนวัสดุ โสตวัสดุ โสตทัศนวัตถุ
    3.สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น ฐานนข้อมูลออฟไลน์ ฐานข้อมูลออนไลน์

    วันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2554

    กลอน

    อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน
    อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา
    อย่าเสาวนาคนชั่ว อย่ามั่วอบายมุข
    อย่าสุกก่อนห่าม อย่าพล่ามก่อนทำ
    อย่ารำก่อนเพลง อย่าข่มเหงผู้น้อย
    อย่าคอยแต่ประจบ อย่าคบแต่เศรษฐี
    อย่าดีแต่ตัว อย่าชั่วแต่คนอื่น
    อย่าฝืนกฏระเบียบ อย่าเอาเปรียบสังคม
    อย่าชื่นชมคนผิด อย่าคิดเอาแต่ได้
    อย่าใส่ร้ายคนดี อย่ากล่าววจีมุสา
    อย่านินทาพระเจ้า อย่าขลาดเขลาเมื่อมีทุกข์
    อย่าสุขจนลืมตัว อย่าเกรงกลัวงานหนัก
    อย่าพิทักษ์พาลชน อย่าลืมตนเมื่อมั่ง

    แหล่งสารสนเทศและทรัพยากรสนเทศ

    แหล่งสารสนเทศ (information sources) หมายถึง แหล่งที่มา แหล่งผลิต แหล่งเผยแพร่และให้บริการสารสนเทศ ซึ่งอาจเป็นบุคคล สื่อมวลชน และสถาบันบริการสารสนเทศ แหล่งสารสนเทศแยกประเภทตามที่มาและลำดับการผลิต แบ่งได้เป็น 3 ประเภทคือ
    1. สารสนเทศปฐมภูมิ (primary sources) หมายถึง สารสนเทศที่เรียบเรียงขึ้นจากประสบการณ์ของผู้เขียน หรือเป็น ผลการค้นคว้าวิจัย นำเสนอความรู้ใหม่ ๆ ได้แก่ รายงานการวิจัย วิทยานิพนธ์ เอกสารการปฏิบัติงาน รายงานการประชุมทางวิชาการ บทความวารสารวิชาการ เอกสารสิทธิบัตร เอกสารมาตรฐาน เอกสารจดหมายเหตุ
    2. สารสนเทศทุติยภูมิ (secondary sources) หมายถึง สารสนเทศที่ได้จากการนำสารสนเทศปฐมภูมิมาสังเคราะห์และเรียบเรียงขึ้นใหม่ เพื่อเสนอข้อคิดหรือแนวโน้มบางประการ ได้แก่ หนังสือทั่วไป หนังสือตำรา หนังสือคู่มือการทำงาน รายงานความก้าวหน้าทางวิทยาการ บทคัดย่องานวิจัย บทวิจารณ์หนังสือ วารสารสาระสังเขป เป็นต้น
    3. สารสนเทศตติยภูมิ (tertiary sources) หมายถึง สารสนเทศที่ชี้แนะแหล่งที่อยู่ของสารสนเทศปฐมภูมิและทุติยภูมิ จะให้ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสารสนเทศ ได้แก่หนังสือนามานุกรม บรรณานุกรม และดัชนีวารสาร

    ความแตกต่างระหว่างข้อมูลและสารสนเทศ

    ข้อมูลแตกต่างจากสารสนเทศคือ ข้อมูลเป็น ส่วนของข้อเท็จจริง โดยได้จากการเก็บมาจากเหตุการณ์ต่างๆ สารสนเทศคือข้อมูลที่นำมาผ่านกระบวนการเพื่อสามารถนำไปใช้ ในการตัดสินใจต่อไปได้ทันที

    ข้อมูล (data) หรือ ข้อมูลดิบ หมายถึง ข้อเท็จจริง หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น อาจจะเป็นตัวเลข ตัวอักษร หรือสัญลักษณ์ก็ได้. ข้อมูลที่ดีจะต้องมีความถูกต้องแม่นยำ และเป็นปัจจุบัน เช่น ปริมาณ ระยะทาง ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ คะแนนของนักเรียน รายงาน บันทึก ฯลฯ

    สารสนเทศ (information)หมายถึงข่าวสารที่ได้จากการนำ ข้อมูลดิบ(raw data) มาคำนวณทางสถิติหรือประมวลผลอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งข่าวสารที่ได้ออกมานั้นจะอยู่ในรูปที่สามารถนำไปใช้งานได้ทันที

    ความสำคัญของสารสนเทศ

    -กำหนดแนวทางพัฒนา นโยบายทางด้านการพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ การศึกษา สังคม และวัฒนธรรม
    -การพัฒนามนุษย์ และสังคม โดยเสริมสร้างความรู้ และนำไปใช้ในการดำเนินชีวิต
    -เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา ช่วยวางแผน และช่วยตัดสินใจ

    ความหมายของข้อมูลสารสนเทศ

    สารสนเทศ หรือ สารนิเทศ หมายถึง ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ เรื่องราว ข้อเท็จจริงหรือปรากฎการณ์ที่เกิดฃึ้น แต่ในเชิงลึกหมายถึงข้อถึง ข้อมูลข่าวสาร ที่ผ่านการประมวลผลซึ่งมีความหมาย และสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจในชีวิตประจำวัน หรือการทำงานนั้นๆ
    สรุปความหมาย :ข้อมูล ข่าวสาร ที่ได้การจัดการทางความคิด คำนวณ ประมวลผล เพื่อนำมาประโยชน์ตามวัตถุประสงค์
    ทันต่อความต้องการในการใช้งาน และทันเวลา

    วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2554

    ประวัติส่วนตัว นางสาวมัณฑนา ทองหล้า

    ประวัติส่วนตัว


    ชื่อ : นางสาวมัณฑนา สกุล : ทองหล้า
    ชื่อเล่น : ปุ๊กปิ๊ก อายุ 18 ปี
    เกิดวันที่ : 19 มีนาคม 2536
    ที่อยู่ปัจจุบัน : หอพักกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม
    สีที่ชอบ :  ฟ้า , ขาว
    คติประจำใจ :  ทะเลจะสวยต้องมีคลื่น ชีวิตจะราบรื่นต้องมีอุปสรรค์
    ระดับการศึกษา ::
    มัธยมตอนต้น  :     จบจากโรงเรียนมัธยมตระการพืชผล
    มัธยมตอนปลาย :  จบจากโรงเรียนมัธยมตระการพืชผล
    อุดมศึกษา :         มหาวิทยาลัยมหาสารคาม คณะการบัญชีและการจัดการ สาขาการบริหารการเงิน
    E-mail :              Disneypooh 1986@hotmail.com
    เบอร์โทรศัพท์ :   0833799788
    รหัสนิสิต :           54010914845
    การกู้ยืม กยศ. :  กู้ยืม , เป็นผู้กู้ยืมรายใหม่